อาชญากรรม

ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ประชาชนหมู่ที่ 11 ตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร จำนวนกว่า 70 คน เดินทางเข้ามอบหนังสือเรื่อง การอุทธรณ์คำสั่งอำเภอเมืองกำแพงเพชร ให้กับ “นางคุณารักษ์ เกษวิทย์”ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ตามหนังสือที่อ้างถึง อำเภอเมืองกำแพงเพชร ได้ประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 11 ตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล ในวันที่ 28 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยวันนี้มีนายสาท โพธิ์มูล ประชาชนแกนนำกลุ่มชาวบ้านหมู่ที่ 11 ตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเลเป็นตัวแทนยื่นหนังสือ โดยในหนังสือเขียนไว้ว่า ตามหนังสือที่อ้างถึงอำเภอเมืองกำแพงเพชร ได้ประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 11 ตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล ในวันที่ 28 สิงหาคม 2566 มีผู้สมัครรับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้าน จำนวน 2 คนคือ นายเด่น ทองทิพย์ ผู้สมัครหมายเลข 1 และนายสงกรานต์ กุลรักษา (ผู้อุทธรณ์) ผู้สมัครหมายเลข 2 และในการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของคณะกรรมการตรวจสอบตามคำสั่งอำเภอเมืองกำแพงเพชร ที่ 424/2566 ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2566 มีกรรมการทักท้วงว่า นายสงกรานต์ (ผู้อุทธรณ์) ผู้สมัครหมายเลข 2 ไม่มีบ้านที่พักอาศัยอยู่ในหมู่ที่ 11 ตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล แต่ได้พักอาศัยอยู่กับภรรยาที่บ้านเลขที่ 49 หมู่ที่ 7 ตำบลหนองทอง อำเภอไทรงาม อันเป็นการขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 12 (3) แห่งพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช 2457

ซึ่งต่อมาอำเภอเมืองกำแพงเพชร ได้พิจารณา ผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว เห็นว่า นายสงกรานต์ กุลรักษา (ผู้อุทธรณ์) อ้างว่าตนมีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 40/1 หมู่ที่ 11 ตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล แต่ไม่ปรากฎว่าได้มีการใช้บ้านหลังดังกล่าวเป็นที่พักอาศัยอยู่ในหมู่ที่ 11 ตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล แต่อย่างใด แม้จะมีการสอบสวนเพิ่มเติมแล้ว โดยนายสงกรานต์ ได้นำพยานบุคคลมายืนยัน ซึ่งพยานต่างให้การสอดคล้อง ต้องกันว่าส่วนใหญ่นายสงกรานต์ จะพักอาศัยอยู่กับภรรยาคือ นางจันทร กุลรักษา ภรรยาและนายสงกรานต์ ต่างก็ยืนยันว่า ตนพักอาศัยอยู่กับภรรยาเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาตัวบทกฎหมาย พระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ.2525 มาตรา 29 บัญญัติว่า ผู้ใดมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านใด ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้นั้นอยู่และมีภูมิลำเนาอยู่ ณ ที่นั้น ประกอบกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 37 บัญญัติว่า ภูมิสำเนาของบุคคลธรรมดา ได้แก่ถิ่นอันบุคคลนั้น มีสถานที่อยู่เป็นแหล่งสำคัญ มาตรา 49 บัญญัติว่า ภูมิลำเนาย่อมเปลี่ยนไปด้วยการย้ายถิ่นที่อยู่ พร้อมด้วยเจตนาปรากฎชัดแจ้งว่าจะเปลี่ยนภูมิลำเนา และมาตรา 3 บัญญัติว่า ภูมิลำเนาของสามีและกริยา ได้แก่ถิ่นที่อยู่ที่สามีและกรรยาอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา เว้นแต่สามีหรือภริยา ได้แสดงเจตนาให้ปรากฏว่ามีภูมิลำเนาแยกต่างหากจากกัน จากบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว จะเห็นได้ว่า นายสงกรานต์ มีชื่อปรากฎอยู่ในทะเบียนบ้านเลขที่ 40/1 หมู่ที่ 11 ตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล ย่อมสามารถสันนิษฐานได้ว่า นายสงกรานต์ นั้นอยู่และมีภูมิลำเนายังบ้านเลขที่ 40/1 นี้ จร้ง แต่เมื่อพิจารณาสภาพของบ้านเลขที่ 40/1 หมู่ที่ 11 ตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเลแล้ว ในปัจจุบันไม่สามารถถือว่าเป็นสถานที่อยู่เป็นแหล่งสำคัญ ได้นอกจากนี้ การพักอาศัยอยู่เป็นประจำในการดำรงชีวิต ปรากฏว่านายสงกรานต์ ได้พักอาศัยที่บ้านของภรรยาและยังคงอยู่กินฉันสามีภรรยากันอยู่ กรณีนี้จึงเชื่อว่า ภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ประจำของนายสงกรานต์ อยู่ที่บ้านเลขที่ 99 หมู่ที่ 7 ตำบลหนองทอง อ.ไทรงาม ไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านที่เลือกตั้งแต่อย่างใด

นอกจากนี้ แม้ในการสอบสวนเพิ่มเติม นายสงกรานต์ นำพยานบุคคลในเวลากลางคืนมายืนยันบอกว่า ตนได้มานอนกับนางสมบูรณ์ ผู้เป็นมารดา ณ บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 11 ตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล ซึ่งเป็นบ้านของพี่ชาย โดยมีครอบครัวพี่ชายพักอาศัยอยู่ด้วยนั้น เห็นว่าการไปนอนเป็นเพื่อนมารดาในเวลากลางคืน ถือว่าเป็นหน้าที่ของบุตรที่พึงปฏิบัติต่อบุพการี ลำพังการมาเป็นเพื่อนมารดา หรือมาดูแลมาดาในบางวัน จะให้ถือว่าเป็นเจตนาการเปลี่ยนที่อยู่จากบ้านเลข 7 ตำบลหนองทอง ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่กินฉันสามีกับภรรยากับ นางจันทร มาเป็นบ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 11 ตำบลโพธิ์ทะเล ซึ่งเป็นบ้าน ที่นางสมบูรณ์ มารดาพักอาศัย อีกทั้งบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านของนายสนิท กุลรักษา พี่ชายของ นายสงกรานต์ ที่ได้พักอาศัยกับครอบครัว การที่นายสงกรานต์ จะถือเอาบ้านของผู้อื่น ให้เป็นถิ่นที่อยู่ประจำของตนคงเป็นการผิดวิสัยเป็นแน่แท้ จากเหตุผลในคำอุทธรณ์ที่กล่าวผู้อุทธรณ์จึงขอให้ท่านได้โปรดมีคำสั่งยกเลิกคำวินิจฉัยตามหนังสืออำเภอเมืองกำแพงเพชร ที่ กพ 0118/3735 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2566 ที่สั่งให้ผู้อุทธรณ์เสียสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 11 ตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล อำเภอเมืองกำแพงเพชร และคืนสิทธิให้ผู้อุทธรณ์ทุกประการ อย่างไรก็ตามศูนย์ดำรงธรรมได้รับหนังสือร้องดังกล่าวไว้เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ขณะที่ชาวบ้านกว่า 70 คน ยืนยันไม่ได้รับความเป็นธรรมดังกล่าววอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ

ข่าว/ภาพนายวิทยา จตุรภาค  สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร

สนับสนุนข่าวโดย