วัฒนธรรม

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 5 ต.ค.66 ณ บริเวณลานหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองจังหวัดกำแพงเพชร ได้มีการจัดงานประเพณีสารทไทยกล้วยไข่และของดีเมืองกำแพง ประจำปี 2566 ที่จัดสืบทอดกันเป็นประจำทุกปีมาอย่างยาวนาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการจำหน่ายกล้วยไข่ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดกำแพงเพชร กล้วยไข่เมืองกำแพงเพชร มีความโดดเด่นตรงที่ผลดก ลูกโต เปลือกสีทอง เนื้อแน่น รสหอมหวาน จึงทำให้เมืองกำแพงเพชร ได้ชื่อว่าเป็นเมืองกล้วยไข่ ว่ากันว่ากล้วยไข่เมืองกำแพงมีรสชาติอร่อยที่สุดของประเทศไทย และปัจจุบันยังมีการนำกล้วยไข่มาแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเกษตรกรสร้างรายได้อีกด้วย ยิ่งถ้ารับประทานร่วมกับกระยาสารทก็จะยิ่งทำให้มีความอร่อยมากยิ่งขึ้น

สำหรับงานสารทไทยกล้วยไข่เมืองกำแพงเพชร ในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-15 ตุลาคม 2566 หรือตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ประมาณปลายเดือนกันยายน หรือ ต้นเดือนตุลาคมของทุกปี กิจกรรมภายในงานที่สำคัญ ประกอบด้วย พิธีทำบุญตักบาตรวันสารทไทย พิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองกำแพงเพชร การจัดขบวนแห่รถกล้วยไข่ในพิธีเปิดงานฯ โดยปีนี้จะมีขบวนแห่รถกล้วยไข่ในวันที่ 7 ต.ค.66 นี้ เวลา 16.30 น. และเปิดงานด้วยกิจกรรมพิธีกวนกระยาสารทกระทะหลวง พร้อมสลับสับเปลี่ยนในแต่ละวัน ชมการประกวดธิดากล้วยไข่-หนูน้อยกล้วยไข่เมืองกำแพง การประกวดกล้วยไข่สุก-ดิบ GI ,การจัดแสดงนิทรรศการวิถีวัฒนธรรม และนิทรรศการกล้วยไข่ และการเกษตร การจำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภค จากภาครัฐ และภาคเอกชน การแสดงศิลปวัฒนธรรม การประดับไฟตกแต่งภายในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร

โดยในวันนี้เป็นการเริ่มงานวันแรก ได้เริ่มต้นด้วยกิจกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของงาน โดยการแข่งขันการ "กวนกระยาสารทประเภทรสชาติอร่อย และประเภทลีลา ตั้งแต่ 14.00 - 23.00 น. ซึ่งมีผู้เข้าแข่งขันจากตัวแทนทั้งหมด 11 อำเภอ ใน จ.กำแพงเพชร แม้สายฝนจะตกลงมาตลอดทั้ง แต่ผู้เข้าแข่งขันของเราทุกทีมก็ไม่ย่อท้อ ตั้งความพร้อมมาเป็นอย่างดี สำหรับ "กระยาสารท" เป็นขนมโบราณที่นิยมทำขึ้นเพื่อนำไปทำบุญถวายพระสงฆ์ในวันสารท เพื่ออุทิศบุญกุศลแก่บรรพบุรุษ แต่ละทีมได้เตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการกวนกระยาสารท ที่มีส่วนผสมของ "ข้าวพอง ,ถั่วลิสง ,งาขาว ,น้ำตาลทราย ,น้ำตาลปี๊บ ,แบะแซ ,กะทิ ,มะพร้าวซอย ,ข้าวตอก ,น้ำผึ้ง และส่วนผสมอื่นๆที่เป็นเคล็ดลับความอร่อยของแต่ละทีม โดยมีเวลาการกวนกระยาสารทให้ทุกทีมเพียง 1 ชั่วโมง ใช้คนร่วมกวนทีมละ 7 คน

เมื่อทุกทีมลงมือกวนกระยาสารทแล้ว ก็จะต้องทำให้คณะกรรมการที่เดินดูและซิมกระยาสารทของตนเองถูกใจในรสชาติ งานนี้ทั้งสนุกและอร่อย คณะกรรมการใช้เวลาเดินดูการกวนกระยาสารท และชิมว่าของใครจะอร่อยกว่ากัน ทั้งนี้เกณฑ์การให้คะแนนก็จะดูหลายองค์ประกอบ ทั้งรสขาติ ความอร่อย การแต่งกาย และรูปแบบการนำเสนอ รวมถึงการแข่งขันในช่วงหัวค่ำอย่างการ "กวนกระยาสารทลีลา" ที่จะต้องใช้ผู้แสดงบนเวทีหลาย 10 คน การแสดงนั้นต้องถ่ายถอดความเป็นเอกลักษณ์ การเล่าเรื่องของวิถีท้องถิ่นของอำเภอตนเอง ทั้งสนุกและมีสาระที่คงความเป็นเอกลักษณ์ งานนี้ทำให้มีผู้สนใจเข้ามาชมการแข่งขันอย่างคึกคักเลยทีเดียว สำหรับผลการแข่งขันการกวนกระยาสารทในปีนี้ ประเภทรสชาติอร่อย ได้แก่

รางวัลชนะเลิศ - อ.ไทรงาม

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 - อ.ลานกระบือ

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 - อ.ขาณุวรลักษบุรี

และรางวัลทีมอื่นๆเป็นรางวัลชมเชย ส่วนประเภทลีลา ได้แก่

รางวัลชนะเลิศ - อ.บึงสามัคคี 

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 - อ.เมืองกำแพงเพชร 

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 - อ.ลานกระบือ

และรางวัลทีมอื่นก็จะได้รับเป็นรางวัลชมเชย

โดยได้รับเกียรติจาก "นางสาวสุพัตรา คล้ายทิม“ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร และ “นางณัฏฐ์พัชญาณ์ มุสิกะปาน” พัฒนาการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานเปิดการแข่งขันและมอบเงินรางวัลครั้งนี้ โดยจังหวัดกำแพงเพชร ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวพ่อแม่พี่น้องประชาชนทั้งในและนอกจังหวัดกำแพงเพชร เดินทางมาเที่ยวงานประเพณีสารทไทยกล้วยไข่เมืองกำแพง ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 5-15 ต.ค.66 นี้ ได้ทุกวัน

ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค  สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร

สนับสนุนข่าวโดย