You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ "วัดวังหันน้ำดึง" ม.5 ต.วังแขม อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร โดยผู้นำหมู่บ้านและชาวบ้านได้พาไปดูบริเวณ "ซุ้มเสมาครอบลูกนิมิตข้างโบสถ์ฝั่งตะวันออก" ที่ถูกมือดีทุบทำลายเสียหายถึง 2 จุด (ลูกที่ 3 และลูกที่ 4) และขโมยวัตถุมงคลและของมีค่าที่ถูกบรรจุไว้ภายในไป ซึ่งภายในมีทั้ง พระซุ้มกอ พระนางพญา พระหลวงพ่อโต ที่ถูกนำมาบรรจุไว้ในพิธีผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิต เมื่อปี 2553 ที่มีชาวบ้านและผู้มีจิตศรัทธา ร่วมเป็นเจ้าภาพตัดหวายและผูกพัทธสีมา โดยเจ้าภาพแต่ละรายจะนำวัตถุมงคลเข้ามาบรรจุไว้ตามความเชื่อและความศรัทธาจำนวนมาก โดยอุโบสถหลังนี้นั้น ชาวบ้านใช้ประกอบศาสนกิจทางสงฆ์ในการบวชพระและพิธีต่างๆทางศาสนาร่วมกัน จำนวนกว่า 4 หมู่บ้าน (ม.5, ม.12, ม.14 ,ม.16) โดยซุ้มเสมาที่ถูกทุบทำลายนั้นมีเจ้าภาพคือครอบครัวของ "อดีตกำนัน เฉลย อยู่ปาน" ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อจิตใจและความศัทธาของชาวบ้านเป็นอย่างมาก โดยชาวบ้านที่เข้ามาดูร่องรอยความเสียหายต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก อยู่กันมาหลายปีไม่เคยมีเหตุการณ์หรือใครเข้ามาทำแบบนี้ ขอสาปแช่งคนร้ายให้ได้รับกรรมที่ก่อ และขอพรหลวงพ่อโต ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายให้ได้ และหากคนร้ายมาขอขมา ก็จะไม่มีวันยกโทษหรืออโหสิกรรมให้เด็ดขาด
"นายบุญชู เอี่ยมสะอาด" อายุ 51 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 บ้านคลองเจริญ ต.วังแขม อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เล่าว่า "ช่วงบ่ายของวันที่ 18 มิถุนายน 2566 มีงานบวชพระในวัดดังกล่าวซึ่งเหตุการณ์ทุกอย่างยังปกติอยู่ จนกระทั่ง เช้าของวันที่ 19 มิถุนายน 2566 เจ้าอาวาสวัด ได้เข้ามาตรวจความเรียบร้อยบริเวณอุโบสถ พบว่า ซุ้มเสมาครอบลูกนิมิตรถูกคนร้ายทุบทำลายและขโมยเอาทรัพย์สินไป ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาตรวจสอบ เเละเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี จากเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองก็ตั้งข้อสงสัยว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่ เพราะต้องทราบดีว่าลูกนิมิตรดังกล่าว มีใครเป็นเจ้าภาพได้นำทรัพย์สินมาบรรจุไว้ เรื่องนี้สร้างความสะเทือนใจให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก อยากให้นำตัวมาดำเนินคดีได้ "นายวิโรจน์ มั่นยา" หรือ อบต.เล็ก อายุ 46 ปี (อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 5 ตำบลวังแขม อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร) (เสื้อขาว) กล่าวถึงคนร้ายว่า ทำไปแล้วมันได้อะไร ดูแล้วมันก็ไม่มีอะไร โบสถ์ก็เป็นของใหม่ ชาวบ้านก็เสียความรู้สึก ความศรัทธา ตนมองว่าสังคมตอนนี้เหมือนคนไม่กลัวบาปกรรม คนที่ทำคงคิดว่าในเสมานั้นมีของมีค่า เพราะหลุมเสมาที่ฝังลูกนิมิตที่ถูกทุบนี้ มีชื่อเจ้าภาพติดไว้ซึ่งเป็นนามสกุลของคนมีฐานะภายในหมู่บ้าน คนร้ายคงอาจรู้จักหรือเป็นคนภายในหมู่บ้าน
"นางจำเรียง จันทร์ปี" อายุ 63 ปี (อยู่บ้านเลขที่ 25/2 ม.5 ต.วังแขม อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร) ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าว่า " ตนเองกังวลใจอย่างมากที่ "ซุ้มครอบเสมาของอุโบสถ" ถูกทำลาย กลัวว่าจะไม่สามารถทำการบรรพชาอุปสมบทตามพิธีของศาสนาได้สมบูรณ์ ยอมรับว่าสะเทือนใจกับชาวพุทธมาก คนที่ทำแบบนี้ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อแรงศรัทราของชาวบ้านอยากให้ตำรวจจับตัวคนทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้ ขณะที่ชาวบ้านต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์สาปแช่งพร้อมทั้งอธิษฐานขอพรหลวงพ่อโตพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดให้จับคนร้ายมาดำเนินคดีได้
ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร
สนับสนุนข่าวโดย
แสดงความคิดเห็น