You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.
ที่วัดเกาะแก้วอนุสรณ์ ตำบลปางมะค่า อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร นายวราเทพ รัตนากร หนึ่งคณะกรรมการร่างนโยบายพรรคพลังประชารัฐและหัวหน้าทีมพลังกำแพงเพชร พร้อมนายปริญญา ฤกษ์หร่าย ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐเขต 4 นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อและทีมงาน ได้จัดเวทีปราศัยหาเสียงโดยมีประชาชนเข้ามาร่วมรับฟังร่วมพันคน โดยในช่วงโค้งสุดท้ายทางพรรคมีแผนออกพบประชาชนไม่น้อยกว่า6 แห่งในแต่ละวันสำหรับการปราศัยหาเสียง นายวราเทพ รัตนากร จะพูดให้เห็นถึงการเปรียบเทียบนโยบายของพรรคว่า ส่วนใหญ่แต่ละพรรคจะไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก ส่วนของพรรคพลังประชารัฐเองดูแล้วไม่ได้ด้อยไปกว่าพรรคอื่นๆ
นายวราเทพ รัตนากร กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ ก็เพื่ออยากจะบอกให้พี่น้องประชาชน ได้พิจารณาก่อนการตัดสินใจที่จะเลือกผู้แทนของตน เข้าไปทำหน้าที่ในสภา ดูแลแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ และก็ทราบว่าบางคนบางพรรคยังไม่ลงพื้นที่พบกับประชาชนเลย ดังนั้นการตัดสินใจในการเลือกจากกระแสนั้น อาจจะเกิดความลำบากในการติดต่อประสานงานภายหลัง จึงอยากให้พิจารณาเลือกคนใกล้ตัวเราก่อน เสมือนการซื้อของ เราต้องเห็นสินค้า ต้องสั่งของให้ตรงปก ไม่ใช่เห็นเพียงแค่กระแสโฆษณาหรือไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริง จึงอยากจะเสนอ 3 ข้อในการเลือกด้วยเหตุผลดังนี้ ข้อที่หนึ่ง ลองพิจารณาบุคคลอื่นกับคนเคยเป็นส.ส.มาแล้ว หากได้รับเลือกเค้าสามารถที่จะทำงานได้ทันที และที่สำคัญในหลายคนของพรรคพลังประชารัฐของกำแพงเพชรจะเคยทำหน้าที่มาแล้วหลายสมัย ส่วนคนอื่น อาจจะยังไม่มีประสบการณ์หรือการทำงานที่จะต้องเรียนรู้ใหม่ ศึกษาอะไรใหม่ การประสานงาน การติดตามนโยบาย การแก้ไขปัญหา สำหรับผู้ที่เคยดำรงตำแหน่ง คือสิ่งที่ได้เหนือกว่าคนอื่น จะวัดกันที่มีประสบการณ์เป็นหลัก ข้อที่สอง ที่อยากให้เลือกคือ ต้องเป็นคนใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ สะดวกต่อการติดต่อประสานการทำงาน แต่ถ้าเป็นคนอื่นเราต้องศึกษาเรียนรู้นิสัยใจคอกันใหม่ เลือกคนที่รู้จักใกล้ชิดมีความผูกพันธ์กับพวกเราไม่ต้องกังวลถึงการติดต่อประสานงานแน่นอน ข้อที่สาม ผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชารัฐกำแพงเพชรทุกคนทั้ง4เขต เลือกตั้ง ถือว่าเป็นผู้สมัครที่มีการทำงานเป็นทีม สามารถทำให้กำแพงเพชรเรามีความเข้มแข็งในตัวเอง มีเอกภาพในการเข้าไปทำหน้าที่ จึงเกิดการได้เปรียบ ในฐานะที่ตนเองเป็นหัวขบวนของทีม”พลังกำแพงเพชร” ในการที่จะนำพาทีมเข้าพัฒนาบ้านเรา เรามีการทำงานประสานเชื่อมโยงเครือข่ายผู้แทนท้องถิ่นได้ตั้งแต่ตำบล อำเภอและระดับจังหวัด ซึ่งพร้อมที่จะทำงานแก้ปัญหาได้ทันท่วงที โอกาสครั้งนี้ถ้าหลุดมือไปก็น่าจะเสียดาย ซึ่งถ้าไม่มั่นใจแล้วเราจะไปเสี่ยงทำไม เลือกคนรู้ใจคนไว้ใจเลือกคนที่มีประสบการณ์และเลือกคนที่มือทำงานที่เข้มแข็ง คงไม่อยากให้มองถึงกระแสเพียงอย่างเดียว
นายวราเทพ ยังกล่าวอีกว่า พรรคพลังประชารัฐตั้งมาแล้ว4ปี จากประชาชนไม่ได้ก่อตั้งโดยทหาร เพียงแต่ว่าเราได้เสนอทหารคือพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ส่วนนโยบายเด่นๆ จะมีครอบคลุมทุกด้าน เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เราจะมีสวัสดิการให้แก่พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะจะเพิ่มเงินจากเดิมเป็น700 บาท นโยบายผู้สูงวัยจะได้เบี้ยผู้สูงวัย เป็นขั้นบันได เพิ่มจาก 600 เป็น 3000 บาท ถ้า 70 ปีขึ้นไปเป็นเดือนละ 4000 อายุ80ปีขึ้นไป เดือนละ 5000 บาทต่อเดือน จะถือว่าเป็นความโชคดีที่เราจะได้มีโอกาสให้รัฐบาลเข้ามาดูแลพ่อแม่ของพวกเรา แล้วยังมีนโยบายที่ลงสู่เกษตรกรในเรื่องของราคาปุ๋ย ราคายาราคาน้ำมัน ไฟฟ้าทุกอย่างแพงหมดที่ทางพรรคจะได้เข้าไปแก้ปัญหาเร่งด่วนทันที แล้วบอกว่าที่อยู่มา 4 ปีแล้วทำไมไม่แก้ ต้องบอกว่าการอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลที่รวมกัน 19 พรรค ดังนั้น นโยบายที่ผสมปนเปกันจึงไม่สามารถที่จะทำได้ทุกข้อ ในวันนี้หากเปรียบเป็นร้านค้า ประชาชน เหมือนผู้ซื้อ พรรคการเมือง เหมือนร้านค้าสะดวกซื้อ ทีมีให้ประชาชน เลือกดูว่าจะ เลือกร้านไหน ที่อยู่ใกล้ชิดกว่าและมีครบทุกอย่าง ดังนั้น การเลือกผู้สมัครพรรคประชาพลังประชารัฐของจังหวัดกำแพงเพชรทั้งทีม ก็จะมีทีมทำงานที่เข้มแข็งและหากเป็นรัฐบาลก็อาจจะโชคดีมีตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นคนกำแพงเพชรแถมตามมาด้วยก็ได้
ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร
สนับสนุนข่าวโดย
แสดงความคิดเห็น