You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.
เมื่อวันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2565 รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ โรงเรียนปางศิลาทองศึกษา ตำบลโพธิ์ทอง อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมทั้งมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช) ในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร โดยมี นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชรในฐานะประธานอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช. จังหวัด) เป็นผู้แทนกล่าวต้อนรับและรายงานความเป็นมาภูมิสังคม รวมถึงผลการดำเนินงานการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ในภาพรวมของจังหวัดกำแพงเพธร
จากนั้นรองนายกรัฐนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้เกียรติมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเขียว-ป่าเขาสว่าง และป่าคลองห้วยทราย เนื้อที่ 12,951-1-41 ไร่มีประชาชนเข้าอยู่อาศัย จำนวน 1,177 ราย ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมทั้งมอบสมุดประจำตัวรับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช. ในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร ในพื้นที่ป่าคลองขลุง และป่าคลองแม่วงก์ ตำบลปางตาไว ตำบลหินดาต อำเภอปางศิลาทอง และตำบลปางมะค่า อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน ๓๓๔ ราย เนื้อที่รวม 4,233-1-52 ไร่ ในการนี้ ดร.รวีวรรณ ภูริเดชผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (ผอ.สคทช.) กล่าวว่า เป้าหมายการจัดพื้นที่ตามนโยบายรัฐบาล(คทช.) ในพื้นที่ของจังหวัดกำแพงเพชร มีทั้งสิ้น 12 พื้นที่ ประกอบด้วยพื้นป่าสงวนแห่งซาติ จำนวน 7 พื้นที่ และพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน จำนวน 5 พื้นที่ รวมเนื้อที่ประมาณ 188,000 ไร่ ซึ่งในวันนี้ได้ดำเนินการมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำและมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกไปแล้ว จำนวน 2 พื้นที่ โดย สคทช. จะเร่งดำเนินการของจังหวัดกำแพงเพชรที่เหลือให้ประชาชนเข้าอยู่อาศัยและทำประโยชน์ พร้อมส่งเสริมพัฒนาอาชีพ พัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็นในพื้นที่เป้าหมายที่เหลือต่อไป ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงาน ทั้งส่วนกลางส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน คทช.เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน พิจารณาดำเนินการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน
เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาเรื่องไฟฟ้า น้ำสำหรับอุปโภคบริโภค เส้นทางการคมนาคมตลอดจนเร่งดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ การเข้าถึงแหล่งทุนของประชาชน รวมถึงการนำแนวทางสหกรณ์มาใช้ในการบริหารจัดการในพื้นที่ คทช. เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและเกิดผลเป็นรูปธรรม ชุมชนเกิดความเข้มแข็งและสามารถพึ่งพาตนเองได้
พร้อมทั้ง กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนนโยบายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน หรือ คทช, โดยเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนหากมีปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน ให้ประสานการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทชจังหวัด) หรือสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เพื่อหาทางในการดำเนินงานการแก้ปัญหาต่อไป
ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร
สนับสนุนข่าวโดย
แสดงความคิดเห็น