You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 21 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ "ศูนย์บริรักษ์ไทย" วิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร เพื่อไปดูเมนูเด็ดทั้งคาวและหวานจาก "กล้วยไข่" ใน จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อและพืชเศรษฐกิจของจังหวัดที่โด่งดังไปทั่วโลก โดยผู้คิดค้นสูตรพิเศษความอร่อยนี้ก็คือ "ดร.รุ่งธรรม ศรีวรรธนศิลป์" อายุ 63 ปี (หรือ อ.รุ่งธรรม) อดีตอาจารย์เกษียณคณะคหกรรม และเป็นหัวหน้าศูนย์บริรักษ์ไทย วิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร ผู้ที่คิดค้นเมนูอาหารหวานคาวจากผลไม้ตามฤดูกาล และวัตถุดิบต่างๆนำมาแปรรูปต่อยอดเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคและช่วยเกษตรกร จนได้รับความนิยมมากมายหลายเมนู พร้อมนำไปสอนนักศึกษาให้ได้ฝึกการทำอาหารแปรรูปต่างๆเป็นความรู้ต่อยอดนอกตำราเรียนและเป็นรายได้เสริมให้นักศึกษาอีกด้วย
สำหรับวันที่ 23 ก.ย. - 2 ต.ค.65 ที่จะถึงนี้เป็นช่วงของงานประเพณีสารทไทยกล้วยไข่และของดีเมืองกำแพงเพชร ประจำปี 2565 โดยจัดขึ้นทุกปี ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมงานกันมากมาย อ.รุ่งธรรม เลยคิดค้นเมนูอาหารหวานคาวที่เป็นเอกลักษณ์จะนำไปออกบูทให้ชิมและซื้อกลับบ้านภายในงานนี้ด้วย โดยวันนี้ได้นำกล้วยไข่ทั้งสุกและดิบนำมาเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารหวานคาวให้ได้ชมถึง 4 เมนู คือ "แกงมัสมั่นไก่กล้วยไข่ ,ยำสามกรอบกล้วยไข่ , ขนมครัวซองใส้กล้วยไข่ราดแยมกล้วยไข่ ,ขนมเค๊กกล้วยไข่ โดยสาธิตการทำเมนูตัวอย่างให้ดูบางส่วน และจะมีเมนูอื่นๆอีกนับ 10 เมนู ให้ได้ไปอร่อยกันที่งานสารทไทยกล้วยไข่และของดีเมืองกำแพงเพชร หลังจากเตรียมเครื่องปรุงและส่วนผสมเสร็จแล้ว เริ่มจากเมนูแรก "แกงมัสมั่นไก่กล้วยไข่" นำกล้วยไข่ดิบ 10 ลูก ต้มให้สุก เพื่อล้างแป้งออกจากกล้วย (ถ้าไม่ต้มให้สุกก่อน ในกล้วยไข่จะมีแป้งทำให้เวลานำไปแกงมันจะเละไม่อร่อย) จากนั้นตักขึ้นมาหันเป็นชิ้นใช้แทนมันฝรั่ง โดยเทกะทิใส่เข้าไปเขี้ยวในกระทะให้ร้อน ใส่เนื้อไก่ลงไปตามต้องการ เมื่อไก่สุกแล้วให้ใส่ส่วนผสมต่างๆเข้าไปทั้ง หอมแดง ถั่วลิสงคั่ว น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะขามเปียก และขั้นตอนสุดท้ายใส่ "กล้วยไข่" ที่นำไปต้มและหั่นเตรียมไว้ลงไป คนให้เข้ากันเพียง 5 นาทีเท่านั้น (อย่าคนนานเดี่ยวเละ) จากนั้นก็ตักใส่จานพร้อมรับประทานได้ทันที
ส่วนเมนูที่ 2 คือ "ยำสามกรอบกล้วยไข่" นำกล้วยไข่ดิบไปหั่นเป็นชิ้นบางๆ จากนั้นก็นำไปทอดให้กรอบแล้วตักขึ้น จะหั่นเป็นชิ้นคล้าย เฟรนช์ฟรายส์ก็ได้ ซึ่งจะผสมกับเครื่องยำอื่นๆเหมือนยำทั่วไป จะอร่อยแซ่บแค่ไหนก็ขึ้นอยู่ที่น้ำยำที่ทำเอง โดยน้ำยำนั้นจะทำเป็นน้ำยำแบบใสไม่ต้องใส่น้ำปลาร้า คนให้เข้ากันตักขึ้นพร้อมเสริฟได้ทันที นอกจากนี้กล้วยไข่ที่เป็นแบบสุกก็สามารถนำมาอบทำขนมเค๊ก และทำเป็นครัวซอง หรือแยมราดครัวซองได้เช่นกัน ซึ่งภายในงานจะมีเมนูที่ทำจาก "กล้วยไข่" ให้รับประทานนับ 10 อย่าง อาทิเช่น แกงเขียวหวานไก่กล้วยไข่ใส่ปรั่นดี ,ห่อหมกกล้วยไข่ปลากราย ,แกงเผ็ดกล้วยไข่ใส่ไก่ย่าง ,ยำกล้วยไข่กุ้งสด ,ตำไทยกล้วยไข่ ,ขนมหม้อแกงกล้วยไข่ ,ทารท์-พายกล้วยไข่ ,กล้วยไข่ไหมทอง (กล้ายไข่ห่อขนมลา) ,โดนัดกล้วยไข่ ซึ่งเมนูทั้งหมดนี้จะสลับสับเปลี่ยนทำกันตลอดทุกวันจนจบงาน "อ.รุ่งธรรม" กล่าวว่า กล้วยไข่ ถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดกำแพงเพชร นอกจากจะนิยมรับประทานแบบสุกแล้ว ยังนำผลดิบไปทำอาหารได้อย่างอร่อยอีกด้วย โดยแปรรูปทั้งอาหารคาวและหวาน "สำหรับเมนูจาก "กล้วยไข่" ทั้งหมดนั้นจะวางจำหน่ายและให้ชิมกันภายในงานจากสารทไทยกล้วยไข่และของดีเมืองกำแพง ทุกวันจะทำเมนูไม่ซ้ำกัน นอกเหนือจาก 4 เมนูที่ทำให้ดูวันนี้ หากใครอยากลองชิมก็แวะไปที่บูทของคณะคหกรรม วิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร รับรองได้ว่ามาเที่ยวงานนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน
ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร
สนับสนุนข่าวโดย
แสดงความคิดเห็น