You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 ก.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรคลองขลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานนำตัว"นายบอล"ชายวัย 33 ปี ซึ่งเป็นพ่อผู้ก่อเหตุฆ่าลูกชายวัย 6 ขวบ ทิ้งอำพรางลงแม่น้ำปิงไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ต.ท่ามะเขือ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐาน พฤติกรรมการทำร้าย และ DNA ผู้ก่อเหตุไว้เป็นหลักฐานโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบริเวณภายใน จึงได้บันทึกภาพอยู่โดยบริเวณรอบๆห้องเช่า ซึ่งก็พบ "น้องเท่ง" อายุ 5 ขวบ เพื่อนที่ถูกน้องนิคทำฟันหักนั้งเล่นอยู่หน้าห้องที่เกิดเหตุด้วย ทั้งนี้พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นพ่อ ได้ทำร้ายร่างกายลูกชายจนเสียชีวิต แล้วนำร่างขึ้นรถจักรยานยนต์ มาทิ้งในแม่น้ำปิง ส่วนร่างของน้องนิค(ผู้เสียชีวิต) กำลังนำร่างมาจากโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อที่จะไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพรหมประดิษฐ์ ตำบลแม่ลาด อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร
ขณะที่ "นางศิริพร มหาวรรณ์แจม" อายุ 50 ปี (อยู่บ้านเลขที่ 78/4 ม.8 (บ้านท่าตะคร้อ) ต.วังยาง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เล่าว่า "จุดดังกว่าเป็นพื้นที่ทำการเกษตรของตนเอง จะอยู่ริมแม่น้ำปิง โดยจุดดังกล่าวมีร่องน้ำที่ชาวบ้านในพื้นที่รู้ดีว่าหากช่วงไหนน้ำขึ้นจะมาตกปลา หาปลาตรงจุดนี้กัน ตนเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องเมื่อเช้านี้ไม่คิดว่าผู้เป็นพ่อจะโหดร้ายทำกับลูกได้ลงคอขนาดนี้ ขณะที่บรรยากาศภายใน "วัดพรหมประดิษฐ์" หมู่ที่ 3 (บ้านแม่ลาดน้อย) ต.แม่ลาด อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร บรรดาญาติของน้องนิคกำลังช่วยกันเตรียมงานบำเพ็ญกุศลศพ และกู้ภัยได้เคลื่อนย้ายศพมาไว้ที่วัดเพื่อให้ญาติบำเพ็ญกุศล โดย"นางสาวทองหยิบ" มรกต (ย่าของน้องนิค) อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 3 (บ้านแม่ลาดน้อย) ต.แม่ลาด อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เปิดเผยว่า "นายบอล ผู้ก่อเหตุ (ลูกชาย) มีลักษณะนิสัยเป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยพูดเวลามีปัญหาอะไรก็ไม่เคยบอกหรือเล่าให้แม่ฟัง โดยที่ผ่านมาตนทราบว่าลูกชายมีพฤติกรรมทำร้ายภรรยาและหลาน แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุรุนแรงจนถึงขนาดเสียชีวิต เมื่อถามลูกชายก็ตอบว่าตี เพราะลูกดื้อซน และชอบทำลายข้าวของคนอื่นเสียหาย ตนทราบว่าลูกชายและภรรยาเคยมีปัญหาทะเลาะกันบ่อยครั้ง เนื่องจากมีรายได้น้อย ทำงานหาเงินไม่พอจุนเจือครอบครัว โดยภรรยาก็เคยหนีไปหลายครั้ง แต่นายบอลลูกชายของตนก็ยังไปตามกลับมา อยู่ด้วยกันอีก จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์สลดขึ้น
ในส่วนที่มีคนตั้งข้อสงสัยว่าน้องนิคใช่ลูกแท้ๆของนายบอลหรือไม่ ตนเองก็ตอบไม่ได้ แต่นายบอลไม่เคยพาไปไหนมาไหนด้วย ไม่เคยพูดถึง และไม่ส่งเสียให้เรียน ซึ่งตนคิดว่าผิดวิสัยของคนเป็นพ่อลูกกัน แต่ในสิ่งที่ลูกตนเองได้กระทำลงไป ตนคิดว่าไม่สมควร เพราเด็กไม่ได้มารับรู้ปัญหาของผู้ใหญ่ และผู้ใหญ่ก็ไม่ควรมาลงกับเด็ก ส่วนสาเหตุ ตนคาดว่าน่าจะเกิดจากประเด็นแรกคือ ทะเลาะกับภรรยาแล้วภรรยาหนีไปมีคนอื่น ประกอบกับเด็กดื้อและซุกซน จึงทำให้เกิดความโมโหและลงมือทำร้าย จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว และหลังจากเสร็จงานศพของน้องนิค ตนยังคงดูแลลูกผู้หญิงคนโตต่อไป ส่วนหลานคนเล็ก วัย 5 ขวบ แม่ของเด็กแจ้งว่าจะรับไปอยู่ด้วยและเลี้ยงดูเอง ขณะที่วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ พม. สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกำแพงเพชร ได้เข้าเยี่ยมเยื่อนครอบครัวของน้องนิคทางฝั่งนายบอล และหาทางช่วยเหลือเบื้องต้น หากสุดท้ายไม่มีใครดูลูกคนเล็ก 5 ขวบ ก็จะนำไปดูแลต่อในฐานะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายบอลผู้ก่อเหตุว่า "ทำร้ายผู้อื่นโดยทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้ายจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายและซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย ซึ่งขณะนี้แม่ของเด็กได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาแต่ไม่ยอมให้สื่อสัมภาษณ์ใดๆ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดวินาที "นายบอล" ผู้ก่อเหตุนำศพ "น้องนิค" ลูกชาย 6 ขวบ จับนั่งหน้ารถเพื่อเอาศพไปทิ้งอำพรางคดีริมแม่น้ำปิง โดยเป็นกล้องจุดที่ผู้ก่อเหตุเลี้ยวออกจากซอยห้องเช่าเพียง 400 เมตร ตรงไปทางทิศใต้เข้าสู่ ต.วังยาง สวมใส่เสื้อยืดสีน้ำเงินแขนยาว และน้องนิคใส่เสื้อสีส้ม โดยเวลาตามกล้องเคลื่อนเป็น 06.12 น. และ 06.26 น. แต่เวลาจริงอยู่ที่ เวลา 07.38 น. ของวันที่ 18 ก.ย.65 บริเวณ ถนนสายท่ามะเขือ-คลองขลุง ม.2 ต.ท่ามะเขือ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร โดยใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า สปาร์ค 115i สีขาวน้ำเงิน (ไม่ทราบป้ายทะเบียน)
ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร
สนับสนุนข่าวโดย
แสดงความคิดเห็น