อาชญากรรม

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวทราบว่า "พระอธิการจำนง ธรรมจาโร" อายุ 78 ปี บวชมาแล้ว 20 พรรษา เป็นเจ้าอาวาสวัดประชาศรัทธาราม บ้านหนองโสน หมู่ 3 ต.วังยาง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ถูกคนร้ายมาหลอกเงินไปจำนวน 10,000 บาท จึงเดินทางสอบถามพร้อมกับ "นายศุภวิกร จ่ายยัง" ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 โดยพระอธิการจำนง เปิดเผยว่า เช้าวันที่ 13 พ.ค.65 มีชายตัวสูงใหญ่อายุประมาณ 50 ปี ผิวดำ เสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงขายาว รถเก๋งยี่ห้อยโตโยต้า รุ่นออติส สีบอร์นเงิน จำทะเบียนไม่ได้มาที่วัด โดยมาแจ้งว่าจะมาเลี้ยงพระเพลวันที่ 14 พ.ค.65 จากนั้นก็เดินดูสถานที่พร้อมสอบถามว่ามีพระเณรกี่องค์ ที่วัดมีกล้องวงจรปิดหรือไม่ ซึ่งตนได้บอกไปว่าไม่มีเพราะเป็นวัดบ้านนอก จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ขับรถออกจากวัดไป

ต่อมาเวลาประมาณ 8.30 น.วันที่ 14 พ.ค.65 ชายคนดังกล่าวได้ขับรถมาที่วัดอีกครั้ง ซึ่งตนคิดว่าคงจะมาเลี้ยงพระเพล แต่ชายคนดังกล่าวได้นิมนต์ให้ตนไปช่วยหว่านทราย โดยอ้างว่าเพิ่งซื้อที่ดินใกล้กับวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลจึงได้ขึ้นรถไปด้วย เมื่อถึงบริเวณที่ดินชายคนดังกล่าวได้จอดรถ แต่ช่วงนั้นมีชายรูปร่างเล็ก ผิวดำ อ้างว่าเป็นชาวเมียนม่าร์ มาขายของเป็นกระปุกสีแดงอ้างว่าเป็นน้ำหอม แต่ในมือถือสลากกินแบ่ง 1 ใบให้เห็น ชายคนที่ขับรถจึงขอมาตรวจดู โดยได้นำใบตรวจวางไว้ที่หน้ารถมาเรียบร้อย เมื่อตรวจดูปรากฏว่าถูกรางวัลที่ 2 โดยได้ตรวจให้ตนดูด้วยแต่เนื่องจากตนตาข้างขวาเสียมองไม่เห็นมาตั้งแต่เด็กจึงมองไม่ค่อยชัด ชายที่อ้างว่าเป็นเมียร์ม่าร์บอกว่าไม่รู้จะไปขึ้นเงินได้อย่างไรเพราะไม่มีบัตร ชายคนขับรถจึงขอซื้อในราคา 30,000 บาท แต่เงินไม่พอจึงเอ่ยปากขอยืมเงินจากตน บอกว่ามีเท่าไหร่ขอยืมก่อน หลังจากเมื่อนำไปขึ้นเงินแล้วจะมาแบ่งให้ จากนั้นจึงพาชายที่อ้างว่าเป็นชาวเมียนร์ม่าร์ขึ้นรถมาที่วัดด้วย ตนจึงให้เงินที่เก็บสะสมไว้จะไปหาหมอให้กับชายคนดังกล่าวไป โดยชายคนดังกล่าวได้มอบสลากกินแบ่งใบที่อ้างว่าถูกรางวัลให้ตนเก็บไว้เป็นหลักฐาน แต่ม้วนสลากจนแน่นหนาพร้อมกำชับว่าอยากแกะ จากนั้นทั้งก็ขับรถออกไปจากวัด

ต่อมาตนเริ่มสงสัยจึงนำสลากที่มัดไว้อย่าแน่นหนามาแกะดู ก็พบว่าเป็นสลากกินแบ่งเก่าตั้งแต่ปี 2564 แล้ว จึงรู้ทันทีว่าถูกหลอก จึงได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจคลองขลุง ทางด้านนายศุภวิกร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 กล่าวว่า หลังจากที่ทราบเรื่องจึงได้ออกดูตามถนนเพื่อหาดูว่าบ้านใดมีกล้องวงจรปิด ก็พบว่าที่ร้านขายของของนายยงยุทธ ราชประดิษฐ์ อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 9 ต.วังยาง พบว่าช่วงวันเวลาดังกล่าวมีรถเก๋งต้องสงสัยขับผ่านไปมาและบางครั้งได้จอดรถข้างถนนด้วย และยังได้มากลับรถที่หน้าบ้านด้วย ซึ่งจะได้นำคลิปนี้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป ขณะที่กล้องวงจรปิดที่ร้านขายของชำได้จับภาพรถเก๋งคนดังกล่าวมาวนกลับรถหน้าร้านทเพื่อไปจอดวางแผนการหลอกหลวงพ่อเรื่องขายที่ดิน ซึ่งได้ไปรับหลวงพ่อมาทำพิธีโปรยทรายในที่ดินตรงสุดมุมกล้อง

ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค  สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร

สนับสนุนข่าวโดย