อาชญากรรม

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.พิพัฒน์ ชุ่มมณีกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรกำแพงเพชร พ.ต.อ.ธนัท แสงตันชัย ผกก.สภ.เมืองกำแพงเพชร พ.ต.ท.นิคสัน แสนเตปิน รองผู้กำกับป้องกันปราบปรามฯ และชุดจับกุมได้สืบทราบว่าจะมีการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวผ่านจังหวัดกำแพงเพชร จึงได้สืบสวนและเฝ้าระวังจุดเสี่ยงคือถนนสายรอง ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไต้รับแจ้งจาก สายลับ ว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าพื้นที่ชั้นใน โดยใช้เส้นทางถนน (หนองแดน-นาบ่อคำ) จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อวางแผนทำการจับกุม โดยได้ใช้รถยนต์สายตรวจซ่อนอยู่บริเวณริมถนน ( หนองแดน – นาบ่อคำ ) ระหว่างหลัก กม. 19-20 ม.9 ต.นาบ่อคำ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร

ต่อมาวันที่ 10 พ.ค. 65 เวลาประมาณ 01.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบว่า มีรถยนต์ตู้โดยสาร จำนวน 2 คัน ขับตามกันมาตามถนนดังกล่าวจากพื้นที่นาบ่อคำ มุ่งหน้าไปทางบ้านหนองแดน อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร จึงได้ซุ่มดู เหตุการณ์ต่อไป จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พบรถตู้โดยสารจำนวนสองคันดังกล่าวได้ขับกลับมาในทิศทางมุ่งหน้าเข้า อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ซึ่งมีลักษณะผิดปกติวิสัยที่จะมีรถตู้โดยสารขับตามกันมาตามถนส้นทางดังกล่าวในเวลากลางคืน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ใช้รถยนต์สายตรวจเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน ส่งสัญญาณให้รถตู้ทั้งสองคันหยุดรถเพื่อทำการตรวจสอบ พบแรงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย เป็นชายและหญิง จำนวน 58 คน จึงได้ทำการจับกุมแรงงานทั้งหมด พร้อมด้วยยึดรถตู้โดยสารคันที่ 1 เป็นรถยนต์ตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน30-0936 สมุทรสาคร มีผู้ต้องหา นายปราโมทย์ ยุระชัย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/1 ม.12 ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร ผู้ต้องหาที่1 เป็นผู้ขับขี่ และนายผ่านพงษ์ คุณมี อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ม.9 ต.อินทร์แปลง อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ผู้ต้องหาที่ นั่งคู่มากับคนขับ ส่วนคันที่ 2 รถยนต์ตู้โดยสาร ยี่ห้อโตโยต้า สีฟ้า ทะเบียน 30-0959 สมุทรสาค มีผู้ต้องหาคนที่ 3 นายญรรยงฮ์ ทองเติม อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/4 ม.4 ต.วังพัษนา อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา คนขับรถตู้ จึงได้นำตัวผู้นำพาและแรงงานต่างด้าวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมตรวจหาเชื้อโควิด-19 พบว่าผลเป็นลบทั้งหมด

ด้าน พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รอง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร เปิดเผยคดีนี้ว่า ทางสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชรได้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.(สส2) ที่เคยมาควบคุมคดีคนต่างด้าวและประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ นำต่างด้าวมาทิ้งที่พื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร 3 ศพ ซึ่งหลังจากสืบทราบว่าจะมีการเคลื่อนย้ายของแรงงานต่างด้าว จึงได้เฝ้าระวังถนนสายรองจากถนนพหลโยธิน บ้านนาโบสถ์ อ.วังเจ้า - บ้านหนองแดน อ.โกสัมพีนคร และ บ้านปางขนุน ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมือง จ.กำแพงเพชร พบรถตู้วิ่งผิดปกติในยามค่ำคืนในเส้นทางดังกล่าว ก็พบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ที่ลักลอบเข้าเมืองและคนขับรถ เบื้องต้นต่างด้าวเหล่านี้จะถูกเคลื่อนย้ายมาจากจังหวัดตาก มาจุดนัดพบจากนั้นรถตู้จะนำพาไปส่งที่อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี แล้วก็จะมีนายหน้ามารับต่อไปอีกทอดหนึ่ง ซึ่งรถตู้ก็จะได้รับค่าจ้างเป็นรายหัวหัวละ 2,000 บาท ซึ่งคนขับทั้ง 3 คนจะได้ตั้งข้อหาให้ความช่วยเหลือนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดโดยผิดกฎหมาย ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่วนต่างด้าวว่าจะถูกดำเนินคดีแอบลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และฝ่าฝืนคำสั่งของจังหวัดในช่วงการแพร่ระบาดอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดจะเข้าสู่กระบวนทางกฎหมายและผลักดันกลับประเทศต่อไป

ในส่วนของต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองจำนวนมากในครั้งนี้ นายสุวิทย์ อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นชาวมอญ เปิดเผยว่า มีนายหน้าทั้งชาวไทยและคนบ้านเดียวกัน เป็นผู้ประสานและติดต่อให้เดินทางจากเมียนมา มาที่ชายแดนทางช่องทางธรรมชาติ จากนั้นได้ข้ามฝั่งมาขึ้นรถและถูกปล่อยทิ้งที่ป่าข้าวโพดแห่งหนึ่งของอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จากนั้นเดินเท้ามาขึ้นรถตู้ ในเขตจังหวัดกำแพงเพชร ก่อนที่จะถูกจับกุมในที่สุด นอกจากนี้ยังเปิดเผยอีกว่า ตนเองเคยทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯและในช่วงของการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ได้กลับมาอยู่บ้าน 2 ปี มีความลำบากนอกจากทำนาและหาปลากินตามคลองแล้วไม่มีงานทำ และรู้ว่าการลักลอบมาในช่วงนี้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ก็ขอเสี่ยง แล้วแต่ดวงถ้ารอดก็ถือว่าโชคดี เนื่องจากทำงานรับจ้างเป็นช่างก่อสร้างจะมีรายได้วันละ 500 บาท และหากรอดไปได้ตนก็จะต้องเสียค่านายหน้าหัวละ 25,000 บาท แต่จะต้องไปถึงปลายทางที่ทำงานก่อน

ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค  สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร

สนับสนุนข่าวโดย