You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.

กำแพงเพชร-จุรินทร์ นำทีมบุกกำแพงเพชร เผยเตรียมงบประมาณพร้อมเดินหน้าประกันรายได้เกษตรกรปีที่ 3 ประสานบริษัทผู้นำเข้าปุ๋ยร่วมแก้ปัญหาปุ๋ยราคาแพง
ข่าวรอบบ้าน

กำแพงเพชร-จุรินทร์ นำทีมบุกกำแพงเพชร เผยเตรียมงบประมาณพร้อมเดินหน้าประกันรายได้เกษตรกรปีที่ 3 ประสานบริษัทผู้นำเข้าปุ๋ยร่วมแก้ปัญหาปุ๋ยราคาแพง


เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสําปะหลัง และมอบถุงน้ําใจบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ผู้ประสบภัยน้ําท่วมในชุมชนต่างๆ ณ ลานมันยั่งยืนพืชผล อําเภอคลองลาน จังหวัดกําแพงเพชร นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร นายสำราญ ศรีแปงวงศ์ อดีต ส.ส.จังหวัดกำแพงเพชร นายพลเดช ศรีแปงวงศ์ ,นายพรชัย อารยะทรงศักดิ์ ,และนายสมพิศ สระทองอ้วน



นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตั้งใจมาเยี่ยมประชาชน เพราะทราบว่าเศรษฐกิจหลักขึ้นอยู่กับข้าวและมันสำปะหลังเป็นหลัก และตนรับผิดชอบดูแลนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งประกันรายได้พืชเกษตรสำคัญ 5 ชนิด คือ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมันและข้าวโพด โดยประกันรายได้เป็นนโยบายสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ที่เจรจาก่อนเข้าร่วมรัฐบาล กลายเป็นนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา และต้องเดินหน้าตราบเท่าที่มีรัฐบาลชุดนี้ เราเดินหน้ามาได้ขึ้นปีที่ 3 และ 2 ปีที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จ ช่วยเหลือเกษตรกรได้มาก จะทำให้พี่น้องมีรายได้ 2 ทาง คือ 1.เอาไปขายในตลาด ใส่กระเป๋าซ้าย และ 2.รัฐบาลจะโอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชีพี่น้องโดยตรงใส่กระเป๋าขวา สุดท้ายจะมีรายได้กระเป๋าขวาและกระเป๋าซ้ายรวมเป็นรายได้ที่ประกัน ตอนนี้ทำจนขึ้นปีที่ 3 แล้ว




สำหรับประกันรายได้ข้าว ตนลงนามเข้า ครม.แล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบกับกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาว่าจะนำเข้า ครม. วันไหนเพราะต้องผ่านส่วนราชการ แต่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติที่ท่านนายกฯเป็นประธานและตนเป็นรองประธาน มีมติเห็นชอบแล้วว่าจะประกันรายได้ข้าวเหมือนปีที่แล้วทุกอย่าง ปีนี้ราคาข้าวตก ทำให้มีส่วนต่างเยอะ รัฐบาลต้องใช้เงินมาชดเชยช่วยเยอะ ที่ข้าวราคาตกเพราะ ประการที่ 1. เราส่งออกได้น้อยเพราะเงินบาทแข็งมาก เมื่อช่วงต้นปีหรือปลายปีที่แล้ว ทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกแพงกว่าประเทศอื่น 2.ปกติประเทศเรามีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้ข้าวเราขายดีขึ้น เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาน้อย คนช่วยกินข้าวน้อยลงทำให้ข้าวเหลือในประเทศสุดท้ายราคาก็ตกลงมา แต่ถัดจากนี้สถานการณ์มีแนวโน้มจะดีขึ้นเพราะค่าเงินบาทอ่อนลง เวลาขายข้าวในต่างประเทศรู้สึกว่าข้าวราคาใกล้เคียงกับเวียดนาม อินเดียที่เป็นคู่แข่งจึงซื้อข้าวเรามากขึ้น ตอนนี้มีผู้มาขอใบอนุญาตส่งออกข้าวเยอะขึ้น 3-4 เดือนที่แล้วประมาณเดือนละ 400,000 ตัน แต่เดือนนี้เดือนเดียว 7-8 แสนตัน โอกาสที่ข้าวส่งออกมีมากขึ้น ข้าวในประเทศเหลือน้อยลง คนต้องการเยอะราคาก็จะค่อยๆขึ้น เป็นสัญญาณที่ดี แต่ถ้าราคาตกจะมีเงินส่วนต่างตามนโยบายประกันรายได้เกษตรกร " ปีนี้ใช้งบเฉพาะค่าประกันรายได้ข้าว ปี 3 เตรียมงบ 89,000 ล้านบาท ใช้เงินมาช่วยชาวนามาก แต่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องทำเข้ามาช่วยดูแลพี่น้องชาวนา ส่วนเรื่องมันสำปะหลัง เตรียมงบประมาณไว้แล้วประมาณ 6,800 ล้านบาท และมีมาตรการคู่ขนานรวมแล้วประมาณ 7,000 ล้านบาทสำหรับมาช่วยชาวไร่มันสำปะหลัง " นายจุรินทร์ กล่าว แล้ววันนี้มีถุงน้ำใจจากมูลนิธิหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมชที่ตนเป็นประธานมูลนิธิในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มามอบให้พี่น้องที่ประสบภัยและที่ต้องได้รับความอนุเคราะห์ตามกำลังที่ตนพอมี และสำหรับสถานการณ์น้ำท่วม จะยังคงได้รับเงินส่วนต่างเหมือนเดิม รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีปุ๋ยที่ราคาแพงเพราะ

1.ราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนขนส่งจากต่างประเทศทุกประเทศที่ขึ้นสูงมาก ทำให้ต้นทุนปุ๋ยทั้งโลกแพงขึ้นและน้ำมันเป็นวัตถุดิบส่วนหนึ่งที่เอามาทำปุ๋ย ราคาต้นทุนปุ๋ยจะแปรผันโดยตรงกับราคาน้ำมันโลก หากน้ำมันแพงปุ๋ยก็จะมีแนวโน้มแพง

2.ประเทศผลิตปุ๋ยใหญ่ที่สุดในโลก ประเทศจีนไม่กี่เดือนมานี้เปิดให้มีการประมูลซื้อปุ๋ยและอินเดียซึ่งเป็นผู้ใช้รายใหญ่ประมูลปุ๋ยจากจีนประมาณปีละ 10,000,000 ตัน ทำให้จีนทำสัญญาขายปุ๋ยระยะยาวให้กับอินเดียปุ๋ยในตลาดโลกหายไปส่วนหนึ่ง

3.จีนกำลังเข้าสู่ฤดูหว่านไถ จึงต้องเก็บสต๊อกปุ๋ยไว้ใช้ในประเทศ รวมทั้งค่าขนส่งจากจีนมาไทยและไปหลายประเทศแพงขึ้นทั้งค่าระวางเรือ ค่าขนส่งทางบก ทำให้ต้นทุนปุ๋ยนำเข้าแพงขึ้นมาก

กระทรวงพาณิชย์โดยอธิบดีกรมการค้าภายใน เรียกประชุมผู้นำเข้าปุ๋ย 19 บริษัท คุยหลายเดือนสุดท้ายได้ข้อสรุปให้ตรึงราคาปุ๋ย ขอความร่วมมือโดยวิธีให้ทุกบริษัทจัดปุ๋ยราคาพิเศษ มาขายให้กับเกษตรกรราคาพิเศษผ่านสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร เกษตรแปลงใหญ่วิสาหกิจชุมชน ยื่นขอซื้อปุ๋ยราคาพิเศษถูกกว่าท้องตลาดกระสอบละ 20 ถึง 50 บาทโดยประมาณ โดยให้ประสานงานผ่าน เกษตรจังหวัดหรือสหกรณ์จังหวัด โดยเตรียมไว้ 4,500,000 กระสอบ วันนี้ขายไปได้ 1,800,000 กระสอบ ยังเหลืออีก 2,700,000 กระสอบ ขอให้รวมตัวกันมาซื้อ" นายจุรินทร์ กล่าว จากนั้นบรรยากาศคือ นายจุรินทร์ รับเรื่องร้องทุกข์โดยให้เกษตรกรได้ร้องทุกข์ร้องเรียนต่อหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประกันรายได้เกษตรกร เรื่องการขึ้นทะเบียน เรื่องหนี้กองทุนฟื้นฟูเกษตรกร เรื่องราคาปุ๋ย และอื่นๆ และให้ผู้บริหารระดับต่างๆได้ตอบคำถามประชาชน บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักประชาชนกล้าแลกเปลี่ยนโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร หัวหน้าส่วนราชการ ประสานงานรับเรื่องและแก้ไขทันที

ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค  สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร

สนับสนุนข่าวโดย

1
2
3
4

8
9
10
12
15
16

17


คุณสามารถแบ่งปันเนื้อหานี้!

แสดงความคิดเห็น