ที่กิน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวขอพาไปบุกถึงโรงงานทำขนมจีบ - ซาลาเปา ซื่อดังที่ร้าน "ท่าโป๊ะซาลาเปา" ตั้งอยู่ เลขที่ 63 ม.3 ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เจ้าของร้านพาไปดูกระบวนการตั้งแต่เริ่มต้นทำขนมจีบ-ซาลาเปา ทุกขั้นตอน การใช้เครื่องทำขนมจีบ การเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่าง ตั้งแต่การม้วนแผ่นเกี้ยว การหมักหมูบดสูตรพิเศษของทางร้าน พร้อมใส่ใส้กุ้งคุณภาพดี จากนั้นจะนำไปนึ่งให้สุกนานกว่า 10 นาที จนได้ "ขนมจีบ" สูตรเด็ด ซึ่งที่นี่ความอร่อยขึ้นชื่อจะเป็น"ขนมจีบใส้หมูกุ้ง" พร้อมการทำ "ซาลาเปา"ใส้ต่างๆ เช่น "ใส้หมูสับ ,ใส้หมูแดง ,ใส้ฮ่องเต้ ,ใส้ครีม ,ใส้ถั่วดำ"

โดยการหมักแป้งสำหรับปั้นลูกซาลาเปาที่ใช้เวลาหมักแป้งนานกว่า 12 ชั่วโมง เมื่อนำมาปั้นโดยคนปั้นจะต้องมีความขำนาญผ่านการฝึกให้ปั้นซาลาเปาออกมาให้แต่ละลูก มีความเท่ากัน พร้อมใส่ใส้ต่างๆลงไป และนำไปนึ่งด้วยไฟความร้อนสูงกว่า 20 นาที ก็จะได้ซาลาเปาที่เหนียวนุ่ม แป้งฟูเหมือนปุยฝ้าย รับประทานเข้าไปแล้วแป้งจะละลายทันทีไม่ติดฟัน โดยปัจจุบันมีการผลิตขนมจีบกว่า 1,000 ไม้ และซาลาเปากว่า 2,000 ลูก หลังจากนั้นก็จะใช้รถกระบะแห่เร่ขายไปตามหมู่บ้านต่างๆในพื้นที่ ซึ่งตอนนี้มีทั้งหมด กว่า 5 คัน ในจังหวัดกำแพงเพชร สำหรับราคาขนมจีบขายเพียงไม้ละ 10 บาท และซาลาเปา ขายเพียงลูกละ 10 บาท ซึ่งก็จะขายทั้งปลีกและส่งกับลูกค้า โดยสามารถโทรสั่งได้ที่โทร.086-4402723

นายจักกรี ฟักเจริญ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 ม.3 ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เล่าว่า "ตนเองนั้น ก่อนหน้านี้จนถึงปัจจุบันเปิดร้านอาหารอยู่ในพื้นที่ และหลังๆมานี้เจอปัญหาการแพร่ระบาดโควิด 19 จนต้องปิดร้านไปกว่า 2 เดือน เนื่องจากลูกค้าเงียบหาย ซึ่งก็คิดว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเลี้ยงดูลูกน้องและครอบครัวที่อยู่กับตนเอง เลยคิดทำขนมจีบ-ซาลาเปาขาย เพราะตนเองเป็นกุ๊กทำอาหารอยู่แล้ว มีความรู้ด้านการทำขนมจีบซาลาเปา แรกๆก็ทำไม่มากแต่พอออกเร่ขายตามบ้านในพื้นที่ต่างๆ ก็มีลูกค้าประจำมากขึ้นจนสุดท้ายก็ทำเป็นรายได้หลักเลี้ยงลูกน้องและครอบครัว ขายดีมากขึ้นจนปัจจุบัน รับรองว่าอร่อยถูกใจแน่นอน ซึ่งใครจะรับไปขายก็มีทั้งปลีกและส่ง ถือว่าเป็นรายได้เสริมในช่วงวิกฤกติเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิด 19 แบบนี้

ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค  สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร

สนับสนุนข่าวโดย