You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.
เมื่อเวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์12 สั่งการให้ นายกิติพัฒน์ ธาราภิบาล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ.กำแพงเพชร-นครสวรรค์ นำเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ร่วมกับผู้ใหญ่หมู่13 บ้านยอดห้วยแก้ว นำชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ฐานปฎิบัติการที่4 และเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขานครสวรรค์ 50 นาย ร่วมกันเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า ที่ออกมาจากป่าแม่วงก์ให้ออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ห่างแนวเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ประมาณ 2 กิโลเมตร บริเวณหมู่บ้าน หมู่ 13 บ้านยอดห้วยแก้ว 2 ตำบลแม่เล่ย์ อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ มีรอยตีนช้างเดินย่ำเต็มทั่วบริเวณ ที่เข้ามาทำลายพืชผลการเกษตรของราษฎร ได้รับความเสียหายโดยเฉพาะต้นมะพร้าวที่มีความสูง 3-5 เมตร ได้ถูกช้างป่าดันจนโค่นล้มลงมา 7 ต้น แล้วกัดกินใบและยอดอ่อนจำนวนหลายต้น
นอกจากนั้น ยังมีต้นเต่าร้าง13 ต้น ต้นกล้วยอีก130ต้น และ พืชผลไม้ และต้นอ้อย เสียหายอีกจำนวนมาก โดยเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. มีช้างป่า โตเต็มไว 2 ตัว ช้างรุ่น 1 ตัว รวม 3 ตัว ได้ออกจากป่าทางร่องน้ำชายป่าลงมาในแปลงปลูกอ้อยของราษฎร เมื่อเห็นช้างป่าลงมา ชุดร่วมปฎิบัติการ ได้จุดลูกบอล และใช้รถไถจำนวน 5 คัน รถกระบะ 1คัน ติดเครื่อง เปิ้ลเครื่องยนต์ และวิ่ง พร้อมเปิดไฟส่อง เพื่อกดดันและพลักดันไล่ช้างป่าให้กลับคืนสู่ป่าจนเวลา โดยเมื่อเวลาประมาณเวลา 2 นาฬิกา 50 นาที สามารถผลักดันช้างป่าเข้าป่าได้สำเร็จ ด้านนายกิติพัฒน์ ธาราภิบาล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ กล่าวว่า วอนอย่าทำร้ายช้าง เร่งวางแผนประสานหน่วยงานดำเนินการผลักดันกลับเข้าป่า ปัญหาคือป่าซึ่งเป็นที่อยู่ของช้างถูกชาวบ้านบุกรุกและทำลาย ทำให้ช้างป่าต้องลงมาหากินในพื้นที่เกษตรทั้งนี้ หากพบช้างก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ขณะนี้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชุมหาทางป้องกันและผลักดันช้างป่าและเฝ้าระวังอยู่ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีอยู่หลายโขลงกว่า 20 ตัว อาศัยอยู่ในเขตป่าพื้นที่ติดต่อระหว่างบ้านถนนสุด หมู่7 บ้านตลุกมะไฟ หมู่6 บ้านเขามะตูม หมู่ 15 บ้านคลองห้วยหวาย หมู่ 21 บ้านบ่อพลอย หมู่ 9 บ้านปางสัก หมู่ 12 ต.แม่เปิน อ.แม่เปิน จ.นครสวรรค์ เหยียบย้ำกินพืชไร่ตลอดปี 2563 ที่ผ่ามาถึง 550 ไร่
ส่วนมาตรการป้องกันระยะยาว ขณะนี้ขณะนี้ได้ทำการปรับแนวเส้นทางสำหรับลำเลียงอุปกรณ์ก่อสร้างทำรั้วกันช้างระยะทาง 28 กิโลเมตร แต่ทำไปได้เพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้น เพื่อป้องกันช้างป่าที่จะลงมากินพืชไร่ของชาวบ้านมาจากผืนป่า ทางบ้านไผ่งามถึงหินกองบ้านบ่อพลอย 6 ตัว บ้านแม่กะสี 4 ตัว บ้านปางสัก 15 ตัว รวมช้างประมาณ 25 ตัว
อย่างไรก็ตาม สำหรับปัญหาช้างกับชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องยาวนานนับ 10 ปีแล้ว แต่ยังไม่สามารถผลักดันช้างกลับคืนป่าได้หมด เนื่องจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องขาดกำลังเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ งบประมาณที่จะใช้จ่าย จึงทำเกิดปัญหาเรื้อรังยืดเยื้อจนชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมานานหลายปีจนถึงขณะนี้
ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร
สนับสนุนข่าวโดย
แสดงความคิดเห็น