You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ "วัดศรีสังฆธาราม" ม.1 (บ้านคลองแขยง) ต.ท่าพุทรา อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร จากการร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวในพื้นที่ ว่าขอให้เข้ามาช่วยสังเกตุการณ์ กรณีชาวบ้านขอให้ "พระครูพิพิธ วชิวโรภาส" เจ้าอาวาสวัด ได้ชี้แจงรายรับ-รายจ่ายของวัด ที่ไม่ได้เปิดเผยมานานกว่า 10 ปี ถึงแม้จะมีการแต่งตั้งไวยาวัจกร และคณะกรรมการ แต่ไม่มีใครรับทราบรายละเอียดต่างๆอย่างโปร่งใส่ โดยได้มีเจ้าคณะตำบลและเจ้าคณะอำเภอ พร้อมกับผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มารับฟังข้อเท็จจริงร่วมกับชาวบ้านด้วย ทั้งนี้ชาวบ้านที่มารวมตัวกว่า 50 คน อดทนต่อพฤติกรรมของพระเจ้าอาวาสวัดไม่ไหว เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของการดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสของ "พระครูพิพิธ วชิวโรภาส" นั้น ไม่ได้ให้ความกระจ่างเรื่องเงินของวัดเลย อีกทั้งยังมีเรื่องของสีกา (ผู้หญิง) เข้ามากินนอนในกุฏิของเจ้าอาวาสในวัดดังกล่าวนี้นานนับเดือน และเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องเงินทองของวัดนานนับ 10 ปี จนวัดมีหนี้สินมากมาย โดยพระเจ้าอาวาสอ้างว่าผู้หญิงคนดังกล่าวคือ"โยมอุปัฏฐาก" ไม่มีอะไรเกินเลย ซึ่งทำให้ขาวบ้านได้มีการตักเตือนพูดคุยกันหลายครั้งเกี่ยวพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนี้ แต่ก็ไม่เป็นผล
จนกระทั้งวันนี้ได้มีการรวมตัวให้ชี้แจงหลายเรื่องโดยเรื่องหลักคือเรื่องเงินสร้างโบสถ์เมื่อหลายปีก่อน ที่มีมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท โดยในแต่ละปีมียอดกฐินเข้ามาหลักแสน แต่เงินก็ถูกใช้จ่ายไปในลักษณะของการเบิกเงินของช่างรับเหมางานสร้างโบสถ์จนไม่เหลือ และงานก่อสร้างก็ไม่คืบหน้า ล่าสุดได้จัดงานกฐินสามัคคีไปเมื่อช่วงต้นเดือน ตุลาคม 63 ที่ผ่านมา มียอดกฐินทั้งสิ้นกว่า 4 แสน 5 หมื่นบาท แต่เงินทั้งหมด เจ้าอาวาสไม่สามารถนำรายละเอียดมาแสดงกับชาวบ้านได้ อ้างว่าสมุดบัญชีวัดอยู่กับหญิงรายหนึ่งชื่อ "นางลำพึง" และเรื่องของรถวัดที่ชาวบ้านอ้างว่าผู้ครองครองเป็นชื่อของนางลำพึง และโอนย้ายเปลี่ยนผู้ครอบครองมาเป็นเจ้าอาวาสวัดภายหลัง โดยชาวบ้านได้นำรูปของ"นางลำพึง" หญิงที่พัวพันกับเจ้าอาวาสวัดให้กับผู้สื่อข่าวได้ดู พร้อมบอกอีกว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ่งถึงขั้นผัวเมีย ได้มาหลับนอนอยู่บนกุฎินับเดือน
สถานะการณ์เริ่มตึงเครียดเมื่อ"พระครูพิพิธ วชิวโรภาส" เจ้าอาวาสวัด" ได้นำสมุดที่ตนเองจดรายละเอียดของเงินเบิกจ่าย แต่ไม่มีเอกสารอื่นใดทั้งใบเสร็จและรายเช็นต์ผู้รับเงินแสดงที่มาอย่างละเอียด ซึ่งชาวบ้านก็ไม่เขื่อว่าสมุดเล่มนี้คือบัญชีจริง และอาจจะถูกเขียนขึ้นมาใหม่ ส่วนไวยาวัจกรและกรรมการที่ถูกตั้งขึ้นมา 3 คน ก็ปฏิเสธไม่รู้เห็นเรื่องเงิน โดยอ้างว่าพระเจ้าอาวาสเก็บเงินทั้งหมดไว้เอง ซึ่งผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมงก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ต่างโต้เถียงกันรุนแรงมากขึ้น สุดท้ายเจ้าคณะอำเภอได้ขอให้ชาวบ้านให้เจ้าอาวาสนำหลักฐานอื่นๆมาชี้แจ้งในวันพรุ่งนี้อีกครั้ง และขอให้ "นางลำพึง" หญิงรายที่ถูกชาวบ้านกล่าวว่านำเงินของวัดและมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าอาวาสมาชี้แจ้งเรื่องนี้เพื่อไขข้อข้องใจทั้งหมด
อย่างไรก็ตามผู้สื่อจะรายงานความคืบหน้าอีกครั้ง เพราะเชื่อว่าสิ่งที่ชาวบ้านร้องเรียนมีมูลความจริง ซึ่งปัจจุบันชาวบ้านไม่เข้าวัดทำบุญที่วัดดังกล่าวเลย
ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร
สนับสนุนข่าวโดย
แสดงความคิดเห็น