You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ชมไร่องุ่นหมู่ที่ 11 ต.สระแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร หลังจากประชาชนพากันไปชมไร่องุ่นกันอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่ตื่นเต้นที่ได้เห็นพวงองุ่นที่ยังติดอยู่กับต้น ต่างแปลกใจกำแพงเพชรปลูกองุ่นได้ด้วย โดยที่บ้านเลขที่ 205 หมู่ 11 ตำสระแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ผู้สื่อข่าวพบกับนางสาววรรณพรรธน์ ปรีดาฤทธิ์ เจ้าของไร่องุ่นปรีดาฤทธิ์ เล่าให้ฟังว่า 4 ปีที่ผ่านมา ได้ร่วมกับคนข้างกายปรับเปลี่ยนที่ดินที่มีอยู่ทั้งหมด 1 ไร่ มาทำสวนองุ่น แล้วหันหลังให้กับการปลูกอ้อย
หลังเรียนรู้วิธีปลูกและการดูแลองุ่นมาจากโครงการหลวง จังหวัดเชียงใหม่ พบว่าองุ่นน่าจะให้ผลผลิตที่ดี จึงทดลองปลูกองุ่น พันธ์แบล็คโอปอ , พันธ์รูทเพอเรท ,และพันธุ์บิวตี้ซีดเลส ในพื้นที่ 1 ไร่ โดยผ่านมา 4 ปีแล้ว ก็ให้ผลผลิตดีตามที่คาดไว้ โดยครั้งนี้คาดว่าจะได้ผลผลิตไม่ต่ำกว่า 2 ตัน ซึ่งปกติตามห้างร้านจะมารับซื้อไปขายต่อ แต่เนื่องจากช่วงนี้ มีเชื้อไวรัสโคโรน่า โควิค 19 ระบาดอยู่ ตามห้างสรรพสินค้าก็ปิด ผู้คนส่วนใหญ่อยู่กับบ้าน ตนจึงใช้วิกฤตินี้โพสลงโซเซี่ยวทาง facebook ให้คนมาเที่ยวสวนเพื่อผ่อนคลายโดยไม่ต้องเดินทางข้ามจังหวัด พร้อมทั้งเปิดขายให้คนที่มาเที่ยว และโพสขายลงในโซเซี่ยวด้วย จึงทำให้สามารถขายได้อย่างดี
นางสาววรรณพรรธน์ ปรีดาฤทธิ์ เจ้าของไร่องุ่นปรีดาฤทธิ์ เล่าต่ออีกว่า ในช่วงระยะเวลา 8 เดือนแรกที่ทำการปลูก จะเป็นช่วงดูแลต้นองุ่น ให้หมั่นรดน้ำ ใส่ปุ๋ย ตัดแต่งกิ่งเพื่อให้เถาองุ่นเลื้อย จนกระทั่งติดผล โดยองุ่นจะใช้น้ำน้อย และให้น้ำเป็นระบบ สปริงเกอร์ บริเวณโคนต้น จากนั้นปล่อยให้องุ่นติดลูกไปอีก 4 เดือน แต่จะเริ่มให้ผลโต พวงใหญ่ รสชาติหวาน ตัดรับประทานได้ ตั้งแต่เดือนเมษายน ราคาขายอยู่ที่ 200-300 บาท/กก.แล้วแต่สายพันธุ์ โดยจะจำหน่ายตามยอดที่จองไว้
ทั้งนี้อยากจะฝากบอกคนที่จะไปสวนทุกคนที่มาต้องใส่แมสก์ด้วย สำหรับผู้ที่ไปไม่ถูกสามารถสอบถามได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 087-8428910
ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร
สนับสนุนข่าวโดย
แสดงความคิดเห็น