You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.
วันเสาร์ ที่ ๑๓ เดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๒ เวลา ๑๐.๐๐ น. พลตำรวจตรีจารึก ลิ้มสุวรรณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร มอบหมายให้ พันตำรวจเอกระวีพรรษ อมรมุนีพงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วยพันตรีนรดิษฐ์ เดชปกครอง หัวหน้ากลุ่มงานกิจการมวลชน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกำแพงเพชร และหัวหน้าส่วนราชการ,หัวหน้าสถานีตำรวจในสังกัด ,เจ้าหน้าที่ทหาร,และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการระดมกวาดล้างตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง และมาตรการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ณ บริเวณหน้าที่ทำการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร
วัตถุประสงค์ของการดำเนินการตามมาตรการ และแถลงผลการระดมกวาดล้าง การจับกุม ผู้กระทำความผิด ห้วงระหว่างวันที่ ๒๗ มิถุนายน ถึง ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ตามที่รัฐบาลโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระงับยับยั้งหรือแก้ไขปัญหาการแข่งรถในทาง หรือขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น การรวมกลุ่มหรือมั่วสุมในลักษณะหรือโดยพฤติการณ์ที่จะเป็นการนำไปสู่การแข่งรถในทาง การขับรถในลักษณะผิดปกติวิสัยของการขับรถตามธรรมดา ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้มีข้อสั่งการตามหนังสือ ตร.ที่ ๐๐๗.๒๒/๒๐๙๕ ลง ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๒ และพล.ต.ท.สุธีร์ เนรกัณฐี ผู้บัญชาการตำรวจภาค ๖ ได้มีข้อสั่งการ เรื่อง มาตรการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยดำเนินการแบ่งเป็น ๓ มาตรการประกอบด้วย ๑. มาตรการป้องกัน, ๒. มาตรการปราบปราม และ ๓. มาตรการสอบสวนขยายผล
ผลการปฏิบัติการปราบปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องของตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ห้วงตั้งแต่วันที่ ๒๗ มิถุนายน ถึง ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒ สามารถจับกุมตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.๒๕๒๒ จำนวน ๗๕ ราย ของกลางรถจักรยานยนต์ ๗๕ คัน จับกุมตาม พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.๒๕๒๒ จำนวน ๒๒๔ ราย ของกลางรถจักรยานยนต์ ๒๒๔ คัน รวม ๒๙๙ คดี ผู้ต้องหา ๒๙๙ คน และได้ขอประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน และประชาชนทุกๆท่าน ให้ทราบถึงภารกิจของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อสร้างความเข้าใจอันถูกต้องในอันที่จะสร้างความเชื่อถือศรัทธา และความร่วมมือตลอดจนความสัมพันธ์ที่ดี รวมทั้งช่วยกันแจ้งเบาะแสการรวมกลุ่มหรือมั่วสุมในลักษณะหรือโดยพฤติการณ์ที่น่าจะเป็นการนำไปสู่การแข่งรถในทาง อันเป็นการก่อความเดือดร้อนรำคาญและเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมส่วนรวมต่อไป
สนับสนุนข่าวโดย
แสดงความคิดเห็น