You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2562 เวลา 10.00 น. พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ ๓ เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมอ่างเก็บน้าตามโครงการพัฒนาแหล่งน้า ตามรอยพ่อ ตาบลทรงธรรม และพิธีรับมอบกิ่งพันธุ์ไม้ผลพระราชทาน จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ณ ตำบลทรงธรรม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร โดยมี นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวรายงาน
จากสภาพพื้นที่ของตำบลทรงธรรมพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ดอน 90% และที่ราบลุ่ม 10 % ตลอดแนว แม่น้ำปิงทางฝั่งตะวันออก ราษฎรส่วนใหญ่มีอาชีพทางด้านการเกษตร เช่น ปลูกมันสำปะหลัง อ้อย และข้าว จากช่วงฤดูที่ผ่านมาพื้นที่ประสบกับปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยหลายหมู่บ้าน ทำให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน และขยายพื้นที่ประสบภัยแล้งออกเป็นวงกว้าง ในพื้นที่ตำบลทรงธรรมจากปัญหาที่ผ่านมาทำให้ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนนายนิตย คงปรีชา ราษฎร หมู่ที่ 5 บ้านคลองลึก ตำบลทรงธรรมอำเภอเมือง จังหวัดกำแพงแพชร ได้ถวายฎีกาถึงมูลนิธิชัยพัฒนาและแจ้งให้จังหวัดกำแพงเพชร โดยศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงปัญหาดังกล่าว
และได้เชิญหน่วยงานเข้าร่วมประชุมเพื่อปรึกษาหาแนวทางดำเนินโครงการดังกล่าว และมติที่ประชุมให้องค์การบริหารส่วนตำบลทรงธรรม เสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร และขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นของรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2562 โดยมีศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชร เป็นผู้ประสานงานและบูรณการหน่วยงานเข้าด้วยกัน เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำตำบลทรงธรรม โดยมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง
ซึ่งประชาชนจะได้รับประโยชน์ จากโครงการดังกล่าว ซึ่งจะช่วยให้มีแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้สำหรับอุปโภค -บริโภค และเพื่อการเกษตร จากปัจจุบันที่ไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำ ถ้าฤดูฝนปีไหนมีปริมาณมาก น้ำจะไหลบ่าลงสู่ลำคลอง และจะไหลบ่าท่วมในพื้นที่ราบซึ่งส่วนใหญ่เป็นแหล่งผลผลิตทางด้านการเกษตรทำให้ผลผลิตได้รับความเสียหาย ถ้ามีแหล่งกักเก็บน้ำจะช่วยให้ประชาชนที่ปลูกพืชทางการเกษตรมีน้ำไว้สำหรับอุปโภค – บริโภค และเพื่อการเกษตร จะทำให้ได้ผลผลิตที่แน่นอนจากช่วงที่ผ่านมาต้องรอน้ำฝนที่ไม่แน่นอน
ดังนั้น หากโครงการนี้สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ จะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ทั้ง 2 ตำบล จะสร้างรายได้ต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่อย่างยั่งยืนต่อไป ประชาชนที่จะได้รับประโยชน์ จำนวนทั้งสิ้น 1,085 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรทั้งหมด 18,578 ไร่
สนับสนุนข่าวโดย
แสดงความคิดเห็น