ข่าวรอบบ้าน

จังหวัดพิจิตร เชิญเที่ยวงานแข่งเรือยาววัดท่าหลวง พากินข้าวเม่าพอกเงินล้าน และของอร่อยในงานวัด

ในวันที่ 1-2 กันยายน 2561 วัดท่าหลวง พระอารามหลวง จังหวัดพิจิตร ได้กำหนดให้เป็นวันจัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.10 ขึ้น ณ ลำน้ำน่าน หน้าวัดท่าหลวง พระอารามหลวง ซึ่งเป็นประจำทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศนับหมื่นคนที่จะมาร่วมชมพิธีเปิด ซึ่งมีขบวนเรือพิธีจำลองทางชลมารคอัญเชิญถ้วยพระราชทานอย่างยิ่งใหญ่ที่ใช้ขบวนเรือนับร้อยลำและฝีพายนับพันคน ซึ่งในวันนี้ ( 31 ส.ค. 2561 ) นายวีระศักด์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และ พระเมธีธรรมประนาท “ท่านเจ้าคุณปรีชา” เจ้าคณะอำเภอเมืองพิจิตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง พระอารามหลวง ได้ร่วมกันเป็นประธานในการจับสลากแบ่งสายเรือยาวที่ใช้ในการแข่งขัน ซึ่งในปีนี้มีเรือยาวที่จะลงสนามชิงชัยเพื่อพายจ้ำหวังเงินรางวัลรวมกว่า 2 ล้านบาท และถ้วยพระราชทานจำนวน 56 ลำ จะพายแข่งเพื่อชิงจ้าวความเร็วแห่งสายน้ำรวม 156 เที่ยว ซึ่งความสนุกสนานที่มีขึ้นในท้องน้ำนั้นยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

แต่บรรยากาศที่เป็นไฮไลท์และพลาดไม่ได้สำหรับนักช้อป นักชิม คือ เรื่องของกินของอร่อยภายในงานแข่งขันเรือยาวของวัดท่าหลวง ที่เป็นบรรยากาศแบบงานวัดย้อนยุคที่เต็มไปด้วยร้านค้าให้เลือกชิม เลือกช้อป ได้อย่างสะใจ วันนี้เราจะพาไปเดินเลือกซื้อของกินของอร่อยและของฝากภายในงานวัด โดยของกินที่มีขายมีตั้งแต่กระเพาะปลาน้ำแดง ขายแค่เพียงจานละ 25 บาท , หอยทอดขายแค่เพียงจานละ20 บาท , ก๋วยเตี๋ยวผัดไทขายแค่เพียงห่อละ10 บาท , ส้มตำปูม้า ส้มตำทะเล ขายแค่เพียงจานละ 80-100 บาท , ไก่ย่าง ,หมูทอด-ข้าวเหนียว ที่ราคาเริ่มต้น 10-60 บาท แล้วแต่จะเลือกตามความพึงพอใจ ส่วนขนมไทย คือ ขนมหม้อแกงหลากรส ราคาเริ่มต้นถาดละ 25 บาท และขนมหม้อแกงรสทุเรียนที่ราคาถาดละ 40 บาท ก็มีให้ได้เลือกซื้อเป็นของกินของฝาก อีกด้วย

แต่ที่เป็นไฮไลท์สุดๆที่ขายคู่กับงานแข่งเรือมายาวนานนับร้อยปีนั่นก็คือ ข้าวเม่าพอกจากวัดหาดมูลกระบือ ตำบลย่านยาว อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ซึ่ง พระมหาเมธี จันทวังโส เจ้าอาวาสวัดหาดมูลกระบือ เล่าถึงประวัติการทำข้าวเม่าพอกของชาวบ้าน ว่า ในอดีตทำขึ้นเพื่อถวายพระสงฆ์และแจกจ่ายให้กับบรรดาฝีพายและกองเชียร์ผู้ที่มาชมการแข่งขันเรือยาวในสมัยนั้น คือเมื่อกว่า 70 ปีที่ผ่านมา ทำแจกฟรี!จากนั้นได้รับความนิยมทางวัดก็เริ่มทำขายหาเงินรายได้เข้าวัด ขายข้าวเม่าพอกแค่แพละ 1 บาท สำหรับข้าวเม่าพอกรสเด็ดของวัดหาดมูลกระบือ ที่นำกล้วยไข่ที่สุกกำลังดี นำมาห่อด้วยมะพร้าวขูด ที่นำมาผสมกับน้ำตาลปี๊บและเกลือ ให้รสชาติออกหวาน มัน เค็ม ก่อนที่จะนำไปชุบแป้งทอดในน้ำมันที่เดือดร้อนจัดก็จะได้ข้าวเม่าพอกรสชาติหวานมันกินอร่อยมีคุณค่าทางอาหารสูง ในปัจจุบันนี้วัดหาดมูลกระบือมีแม่ครัวและชาวบ้านจิตอาสานับร้อยคนมาช่วยกันทำข้าวเม่าพอกขายตามงานแข่งเรือ ตามงานวัดต่างๆ ที่มีงานแข่งขันเรือยาว พูดง่ายๆก็คือมีแข่งเรือที่ไหนในจังหวัดพิจิตรและจังหวัดข้างเคียงก็จะมีข้าวเม่าพอกจากวัดหาดมูลกระบือไปขาย ซึ่งใช้ระยะเวลาการขายเฉพาะในช่วงฤดูน้ำหลาก คือ ในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน ของทุกปี เชื่อไหมว่าเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น ข้าวเม่าพอกจากวัดหาดมูลกระบือสามารถสร้างรายได้หาเงินเข้าวัดได้ปีละไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวให้ความนิยมมาซื้อเป็นของกินของฝากและขอแอ็คชันถ่ายรูปหรือขอลงมือทดลองทอดข้าวเม่าพอกด้วยตนเอง สร้างบรรยากาศสีสันและความสนุกสนานในบรรยากาศย้อนยุคแบบงานวัดที่งานแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน ณ ลำน้ำน่าน หน้าวัดท่าหลวง พระอารามหลวง ดังกล่าว /// ข่าว จังหวัดพิจิตร 

สนับสนุนข่าวโดย..