You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ บริษัท สิงห์โตทองไรซ์คอปอเรชั่น จำกัด ต.ธำรงค์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เป็นโรงสีของ “นายมนต์ชัย รุ่งชาญชัย” ที่รับซื้อขายข้าวเปลือกและแปรรูปข้าวส่งออกจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศ พร้อมทั้งยังมีโกดังให้เช่า 15 หลัง บริเวณที่หน้าโกดังคลังสินค้าหลัง A1 หรือที่เรียกกันว่าโกดังเก็บข้าวนั่นเอง มีกองข้าวความยาว 300 เมตร ความสูงของกองข้าวประมาณ 3 ถึง 5 เมตร และสภาพของกองข้าว ถูกวางทิ้งอย่างไม่เป็นระเบียบ มีข้าวที่บรรจุอยู่ในกระสอบและ บรรจุอยู่ในบิ๊กไบค์ มีเมล็ดข้าวแตกออกจากกระสอบที่ผุพังและข้าวบางกองก็มีสภาพเน่าเสียจากการถูกน้ำฝนที่สาดเข้ามาหรือมีนกมาถ่ายมูลทิ้งไว้ ทำให้ข้าวเน่าเสียและข้าวกองนี้ถูกทิ้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 รวมระยะเวลา 9 ปี
นายมนต์ชัย รุ่งชาญชัย ผู้ประกอบการโรงสีเปิดเผยว่า “สภาพของข้าวกองนี้เป็นข้าวที่เสียหายหมดสภาพที่จะนำไปรับประทานได้เนื่องจากว่าไม่ได้ถูกจัดเก็บอย่างดีและไม่มีการดูแลคุณภาพข้าวได้ตามมาตรฐาน ข้าวจึงอยู่ในสภาพที่นำไปแปรรูปเป็นอาหารสัตว์หรือแปรรูปเป็นพลังงานได้เท่านั้น ส่วนของความเห็นของผู้ประกอบการที่ทำโรงสีมานานกว่า 30 ปีบอกว่า การที่จะนำข้าวที่มีอายุ 10 ปี มารับประทานได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลคุณภาพข้าวสาร หากเป็นข้าวที่ได้รับการดูแลจัดเก็บอย่างถูกต้องและดูแลเรื่องของคุณภาพข้าวที่ได้รับตามมาตรฐาน เช่นอยู่ในโกดังที่มิดชิด มีอากาศถ่ายเทอบรมยาดูแลคุณภาพข้าวอย่างต่อเนื่อง ข้าวก็สามารถนำมาปรับปรุงใหม่ นำมารับประทานได้ แต่หากดูแลไม่ดี สภาพข้าวก็จะมีทั้งกลิ่นทั้งสี ที่ไม่น่ารับประทาน ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการดูแลรักษาคุณภาพข้าวของแต่ละพื้นที่แต่ละแห่งนั่นเอง
สำหรับกองข้าวที่ทิ้ง ไม่ได้รับการเหลียวแล อยู่ที่หน้าโกดังเก็บสินค้าของโรงสีสิงห์โตทองไร้คอร์ปอเรชั่น จำกัด จ.กำแพงเพชร แห่งนี้ นายมนชัย เปิดเผยว่า เมื่อปี พ.ศ. 2554 โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลในยุค รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (อคส.) หรือองค์การคลังสินค้า ได้นำข้าวมาฝากเช่าที่โกดังแห่งนี้และเมื่อปี พ.ศ. 2558 เกิดเหตุไฟไหม้กลางกองข้าวในโกดัง หลังจากระงับไฟได้แล้วข้าวบางส่วน อคส. และเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัย ได้มาตรวจสอบและคัดแยกข้าวเคลื่อนย้ายออกมาไว้ที่หน้าโกดัง ในกรณีนี้ทาง อคส. ได้รับค่าสินไหมจากบริษัทประกันภัยไปกว่า 10 ล้านบาท
ต่อมา อคส.ได้เปิดประมูลข้าวในโกดังเมื่อปี พ.ศ.2562 และผู้ชนะประมูลได้มาเคลื่อนย้ายเข้าภายในโกดังและที่หน้าโกดังเป็นข้าวดีบางส่วนออกไป ยังคงเหลือข้าวอีกกว่า 3,000 ตัน ถูกกองทิ้งไว้ ทางบริษัทได้ส่งหนังสือแจ้ง อคส.หลายครั้ง แต่กลับปฏิเสธเข้ากองนี้ แต่ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสต๊อก คงเหลือประจำปี ปีละสองครั้ง ทางผู้ประกอบการโรงสีได้ร้องขอให้ทาง อคส. มาขนข้าวออกจากพื้นที่เนื่องจากไม่สามารถใช้ประโยชน์ในการประกอบการได้แต่ได้รับการเพิกเฉย ทางบริษัทจึงอยู่ในระหว่างฟ้องร้องต่อศาลเรียกค่าเสียหายต่อศาลปกครองกลาง ขณะเดียวกัน นายมนต์ชัย ได้มีหนังสือยื่นหนังสือ ถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีได้รับความเสียหายจากการกระทำขององค์การคลังสินค้า (อคส.)
ข่าว/ภาพนายวิทยา จตุรภาค สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร
สนับสนุนข่าวโดย
แสดงความคิดเห็น