You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.

กำแพงเพชร-สาวข้าราชการ กกต.กำแพงเพชร ดับปริศนาคากองเพลิงในบ้านสามี พบเขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้ข้างศาลพระภูมิ ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นการตายใดๆทิ้งรอหาหลักฐานคลี่คดี
อาชญากรรม

กำแพงเพชร-สาวข้าราชการ กกต.กำแพงเพชร ดับปริศนาคากองเพลิงในบ้านสามี พบเขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้ข้างศาลพระภูมิ ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นการตายใดๆทิ้งรอหาหลักฐานคลี่คดี


เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 5 พ.ค.67 “พ.ต.ท.ผดุงศักดิ์ ปาณะคำ” สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ บ้านเลขที่ 189 หมู่ 6 ต.ท่าขุนราม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร จึงได้ออกตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยข่างภาพกำแพงเพชร โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด พบเพลิงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว เพลิงได้ลุกไหม้จากครัวหลังบ้านและมีเสียงแก๊สระเบิดตามมา จนเพลิงลุกไหม้อย่างหนัก โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก อบต.ท่าขุนราม และเทศบาลนครชุม จำนวน 5 คัน ได้ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จนสกัดเพลิงได้สำเร็จ จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยข่าวภาพกำแพงเพชรได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านบริเวณห้องครัวด้านหลังของบ้านมีระเบียงล้อมรอบ


ห่างจากต้นเพลิงพบศพของผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ “น.ส.ทรรฒพร บุญเปี่ยม”อายุ 49 ปี (ชื่อเล่นเอ) ตำแหน่ง นักวิชาการเงินและบัญชีชำนาญการ สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดกำแพงเพชร สภาพศพนอนหงายหน้าถูกไฟไหม้ร่างจนแทบจำไม่ได้ มีอวัยวะภายในออกมาบริเวณหน้าท้อง นอกจากนั้นยังพบจดหมายที่เขียนด้วยลายมือหลายแผ่นวางซ้อนกันไว้ โดยใช้แจกันปักธูปวางทับด้านบน ในแผ่นกระดาษ ตรวจสอบคาดว่าจะเป็นลายมือของผู้ตาย ได้เขียนระบายถึงความในใจเกี่ยวกับเรื่องความรักและคนในครอบครัว และมีเนื้อหาในการสาปแช่งคนในครอบครัว วางไว้ที่ศาลพระภูมิหน้าบ้าน โดยแผ่นแรกเขียนไว้ว่า” ในเมื่อเอเหลือแต่ตัว เพราะอะไรพี่ลองเป็นแบบเอบ้างนะ” สองแผ่นต่อมา จะเป็นการเขียนในเชิงตัดพ้อต่อว่า ตั้งแต่ชีวิตอยู่ร่วมกันมา กับการก่อร่างสร้างตัวเพื่อครอบครัวที่มีพ่อแม่และลูก แต่ต่อมามีมือที่สาม ทำให้เกิดปัญหามาอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายตนเองต้องย้ายออกจากบ้านที่ร่วมสร้างกันมา พร้อมกับในหลายเหตุการณ์ที่มีปัญหาเกิดจากบุคคลที่สาม จนทำให้ตนเองต้องเคยคิดกินยาฆ่าตัวตายมาแล้ว จนตอนนี้ตนเองเครียดซึมเศร้าจากปัญหาที่ถาถมเข้ามาสามีที่รักก็ขอหย่า จนถึงวันนี้คิดแล้วว่าเอไม่เหลืออะไร คนอื่นก็ไม่ต้องเหลืออะไรบ้านหลังนี้สร้างเพื่อสามคนจะเอาคนอื่นมาอยู่ไม่ได้พร้อมทั้งของจองเวรเอาเลือดเขียนลงดินและสาปแช่งบุคคลที่สามที่ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน นอกจากนั้นยังมีการเขียนประวัติของตนเอง และข้อสั่งเสียอีก 7 ข้อ ที่ถึงลูกและตัดพ้อขอไม่เกิดร่วมกันในชาติต่อไป และแผ่นสุดท้ายเขียนกำขับว่า “ ที่ดินจะเป็นของน้องอิ่ม(หมายถึงบุตรสาว)คนเดียว จะไม่มีใครมาซื้อได้ ซื้อก็จะอยู่ไม่ได้ พาผู้หญิงใหม่มาอยู่ก็จะฉิบหายตายไป” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของ “นายราเชนทร์ สมศักดิ์” อายุ 52 ปี รองปลัด อบต.ท่าขุนราม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่อยู่บ้านพาลูกไปเที่ยวต่างจังหวัด ขณะที่



“นายปิยะชัย สมศักดิ์ “ อายุ 48 ปี (น้องชายเจ้าของบ้าน (อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 6 ตำบลท่าขุนราม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร) เล่าว่า “ตนเองได้อาศัยอยู่ร่วมกับพี่ชายคือนายราเชนทร์ สมศักดิ์ ซึ่งเป็นรองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลท่าขุนรามและหลานสาว รวม 3 คน ก่อนเกิดเหตุนายราเชนทร์ สมศักดิ์ ได้พาบุตรสาวไปเที่ยวต่างจังหวัดโดยให้ตนเองได้เฝ้าบ้านหลังดังกล่าวจนกระทั่งเวลาประมาณ 16.30 น. ตนเองได้เข้ามาตรวจสอบและเปิดไฟในบ้านก็ไม่พบสิ่งที่ผิดปกติ จึงได้ล็อคประตูด้านนอกไว้แล้วเดินทางไปข้างนอก จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. มีคนแจ้งว่าเกิดไฟไหม้ภายในบ้านซึ่งตนเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าผู้ตายได้เข้ามาตั้งแต่ตอนไหนและสังเกตในขณะที่ตนเองมาเปิดไฟก็ไม่พบ น.ส.เอ พี่สะใภ้เช่นกัน มาพบอีกทีก็กลายเป็นศพและไฟได้เกิดลุกไหม้จนทำให้เกิดเสียหาย


และจากการสอบถามชาวบ้านใกล้เคียงได้บันทึกภาพโดยพบว่ามีการระเบิดของถังแก๊ซและเปลวไฟพุ่งโชยขึ้นมาอย่างน่ากลัว หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบเบื้องต้นในที่เกิดเหตุก็ได้กันพื้นที่เอาไว้และให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยข่าวภาพกำแพงเพชร นำศพของผู้เสียชีวิตส่งผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต และรอ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบว่าเกิดจากเหตุเพลิงไหม้หรือเหตุฆาตกรรมหรือฆ่าตัวตาย

ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค  สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร

สนับสนุนข่าวโดย


4


8

12







คุณสามารถแบ่งปันเนื้อหานี้!

แสดงความคิดเห็น