อาชญากรรม

จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ " Kanya Susuk" (กันยา สู่สุข) เป็นนักศีกษาชั้นปีที่ 1 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร ชื่อ "น.ส.กันยา สู่สุข" (แนน) อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/2 ม.8 ต.คลองแม่ลาย อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ได้โพสเตือนภัยจากเหตุการณ์ที่ตนเองถูกคนร้ายขับรถประกบและใช้มีดจี้ที่คอปล้นกลางทางระหว่างกลับบ้าน ซึ่งเป็นช่วงเวลาประมาณ 22.00 -23.00 น. ของคืนวันที่ 6 ธ.ค.65 ที่ผ่าน ตนได้ขับรถกลับจากหอพักเพื่อนในตัวเมืองกำแพงเพชร และกลับบ้านของตนกลางดึกในพื้นที่ ม.8 ต.คลองแม่ลาย ระหว่างทางได้มีชายสวมไอ้โม่งปกคลุมใบหน้า มาคนเดียว ขับรถจักรยานยนต์มาตีคู่ พร้อมใช้มีดขอตัดหญ้าจ่อมาที่คอตนเองและสั่งให้หยุดรถ แต่ตนไม่หยุดได้เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หนี คนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์เบียดจนรถตนเองล้มเสียหลักบนถนน ตนกระเด็นไปคนละทิศละทางกับรถ จากนั้นก็ได้ตั้งสติวิ่งหลบเข้าไปในป่าหญ้าข้างทาง เพื่อเอาตัวรอด คนร้านเห็นว่าตนได้หลบเข้าไปในป่าหญ้าท่ามกลางความมืด จึงได้วกมาที่รถจักรยานยนต์ของตนและขโมยทรัพย์สินไปจนหมด ทั้งโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 13 pro สีทอง และกระเป๋าตังค์มีบัตรเอทีเอ็ม กับบัตรประชาชนก็เอาไปหมด จากนั้นยังวนเวียนเพื่อดูให้แน่ใจว่าตนไม่อยู่แล้ว จึงได้ขับรถหลบหนีไปทางถนนเส้น บ้านใหม่-ยางเลียง ทางไปบ้านของตนเอง ตนจึงได้กลับมาที่รถจักรยานยนต์พบว่าทรัพย์สินได้หายไปหมด แต่กุญแจรถมอเตอร์ไซต์ยังอยู่จึงได้ยกรถขึ้นและขับกลับมาขอความช่วยเหลือจากพนักงาน 7-11 ต.ท่าขุนราม ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งพนักงานและลูกค้าในร้านสะดวกซื้อก็ได้ให้ความช่วยเหลือและโทรแจ้งตำรวจในพื้นที่ทันที ซึ่งต่อมาตำรวจก็ได้มาลงพื้นที่ยังจุดเกิดเหตุและพาไปแจ้งความที่โรงพักเมืองกำแพงเพชร และพาไปส่งที่บ้านของตน ซึ่งตำรวจก็จะรวบรวมหลักฐานสืบหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีอีกครั้ง

"น.ส.กันยา สู่สุข" (แนน) อายุ 20 ปีนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาลัยราชภัฎกำแพงเพชร (ผู้เสียหาย) ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า "เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนถนนสายบ้านใหม่สุวรรณภูมิ ไป บ้านยางเลียง ต.คลองแม่ลาย จุดเกิดเหตุอยู่พื้นที่ ม.5 บ้านคลองธานี - ม.11 (บ้านใหม่สุวรรณภูมิ) ต.ท่าขุนราม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ตนได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกตามร่างกายบริเวณหน้าแข้งขวา และสะโพกซ้าย มีรอยถลอกพกช้ำ ตนได้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร ทั้งๆที่เนื้อตัวยังสกปรกอยู่ และกลับมาทำแผลที่บ้าน ตนเองอยากให้เหตุการณ์ที่เจอมาเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยสำหรับผู้หญิงและคนที่ขับรถกลับบ้านกลางดึก ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวเคยได้ยินคนเล่าว่ามีคนเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้แต่ขับรถหนีได้ทัน ก็ไม่คิดว่าวันนี้จะเจอกับตนเอง เหตุการณ์ครั้งนี้ตนถือว่าโชคดีที่รอดชีวิตมาได้ และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งนำตัวคนผิดมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด ตอนนี้ตนเองเครียดและนอนไม่หลับไม่อยากออกไปไหนแล้วเพราะกลัวว่าคนร้ายจะดักทำร้ายตน และหากไปทำกับคนอื่นอีกก็ไม่ปลอดภัยอาจเกิดเหตุการณ์รุนแรงมากกว่านี้ก็ได้ หลังโพสต์เรื่องราวดังกล่าว ลงในโซเชียลทำให้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและเป็นห่วงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นหากยังจับคนร้ายมาดำเนินคดีไม่ได้ อาจจะทำให้คนในพื้นที่เกิดความระแวงและไม่ปลอดภัย ซึ่งก็มีการแชร์เรื่องนี้ไปหลายพันครั้งอยากให้ตำรวจเร่งดำเนินการจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีเร่งด่วน

ข้อความจากโพสของผู้ใช้เหสบุ๊ค " Kanya Susuk" (กันยา สู่สุข) ขอมาเตือนภัยสำหรับผู้หญิงที่ขี่รถกลับบ้านหรือไปไหนคนเดียวนะคะ ถนนสายบ้านใหม่มายางเลียง พอดีเรากลับจากหอเพื่อนจะกลับบ้าน เวลาประมาณ 22:00-23:00 โดยประมาณ เราได้ขี่รถกำลังจะกลับบ้านมีรถขี่มาตีคู่เอามีดจ่อหน้าเราแล้วสั่งให้เราหยุดรถแต่เรากะจะบิดรถหนีคนร้ายเบียดรถเราจนรถเราล้ม พอเราลุกขึ้นได้เรารีบวิ่งหนีเข้าไปข้างทางที่มีป่าที่มีหญ้ากะซ่อนตัวคนร้ายก็วนกลับมาบอกให้เราหยุดเพราะเราหนี คนร้ายบอกให้เราหยุด พอเราไม่หยุด คนร้ายจึงไปที่รถเราเพื่อเอาของมีค่าไป มีโทรศัพท์ไอโฟน13pro สีทอง และกระเป๋าตังค์มีบัตรเอทีเอ็ม กับบัตรประชาชน พอคนร้ายมาเอาของเราไปมันก็วนหาเราอยู่พักนึง สักพักคนร้ายก็ได้มุ่งหน้าไปทางยางเลียงทางที่เราจะกลับบ้าน เราตั้งสติเห็นว่าคนร้ายมันไปไกลแล้วเราเลยขึ้นมาบนถนน หาโทรศัพท์จะติดต่อคนอื่น แต่โทรศัพท์หาย เราคิดสักพักเพราะทางที่เราไปมันทั้งมืดและไม่มีรถผ่าน เราจึงยกรถที่ล้มขี่ย้อนกลับไปที่ 7-11 ท่าขุนราม เพื่อไปขอความช่วยเหลือ มีพี่พนักงานกับลูกค้าในร้านออกมาช่วยเหลือและโทรแจ้งความให้ ต้องขอบคุณมากๆเลยค่ะที่ช่วยถ้าพี่ได้มาเห็นต้องขอบคุณมากๆที่แจ้งความให้ แล้วก็ขอบคุณตำรวจที่พาไปส่งบ้านแล้วก็แจ้งความ ตอนนี้กำลังดำเนินคดีค่ะ ขวัญเสียมากค่ะตอนนั้นคิดว่าตัวเองจะไม่รอดแล้ว ภาพพวกนั้นก็ยังคงติดตาอยู่ตลอดเลยไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับตัวเอง ดีที่ยังเอาชีวิตรอดกลับมาได้ แต่ก็จิตตกมากๆเลยค่ะ

ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค  สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร

สนับสนุนข่าวโดย