You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 ก.ค.65 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านหลายรายในพื้นที่ ม.10 (บ้านทรัพย์มะนาว) ต.วังไทร อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ว่าถูกเพื่อนบ้านวางยาพิษ (เบือ) สุนัขและแมวตายนับ 10 ตัว โดยได้นำเอาศพของสุนัขและแมวที่หาเจอมาวางเรียงกันบริเวณหน้าบ้านเตรียมนำไปฝัง มี หมา 6 ตัว และ แมว 1 ตัว ยังหาไม่เจออีกเยอะซึ่งก่อนหน้านี้ได้พยายามช่วยชีวิตโดยเอาไข่ไก่และยาถอนพิษกรอกล้างท้องเพื่อให้สุนัขและแมวสำรอกยาออกมา แต่ก็ไม่เป็นผลสุนัขบางตัวตายคามือเจ้าของทันที จากภาพสุนัขและแมวนอนเรียงกันรอการนำไปฝังดิน ทำให้ทั้งเจ้าของสุนัขและชาวบ้านที่มาพบเห็นเศร้าสลดเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก โดยชาวบ้านเจ้าของสุนัขรายหนึ่ง เล่าให้ฟังว่ามีเพื่อนบ้านรายหนึ่งได้มาทำไร่มันสำปะหลังบริเวณใกล้กับกลุ่มบ้านของตนเองและประชาชาหลายหลัง จากนั้นก็ได้นำใบตองวางอาหารใส่ยาพิษไว้ในแปลงมัน ซึ่งสุนัขและแมวทั้งหมดได้เดินเข้าไปกินจนหมด จากนั้นก็ทยอยตายที่ละตัว ซึ่งยังมีอีกหลายตัวที่ยังหาไม่เจอว่าไปนอนตายที่ไหน และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อนบ้านเจ้าของไร่มันที่ลงมือวางยาพิษ ก็ได้ขับรถมาจอดแล้วบอกว่าตนเองเป็นคนทำเอง จะเอายังไง ? โดยให้เหตุผลว่าต้องเบือเพราะสุนัขและแมวไปเหยียบย้ำแปลงมันได้รับความเสียหาย โดยผู้สื่อข่าวได้ให้ชาวบ้านเจ้าของหมาเดินไปชี้จุดที่มีใบตองที่ใช้วางอาหารคลุกยาพิษที่สุนัขและแมวเข้าไปกิน พบว่ามีรอบเท้าของสุนัขและหมาแมวเดินเข้าไปในไร่มันดังกล่าวจริง จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นผู้นำหมู่บ้านได้นำรถแบ็คโฮมาขุดหลุมขนาดใหญ่ให้ชาวบ้านช่วยกันขนสุนัขและแมวไปฝังไว้ที่ป่ายางในพื้นที่ และช่วยกันตามหาศพของสุนัขและแมวที่เหลือว่าไปนอนตายที่ใด ทั้งนี้ทาง ส.อบต.ในพื้นที่ได้นำเรื่องแจ้งไปที่ผู้ใหญ่บ้านทราบ และจะเรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายมาตกลงเรื่องค่าเสียหาย โดยชาวบ้านบางรายยืนยันจะแจ้งความเอาผิดผู้ก่อเหตุครั้งนี้
(สัมภาษณ์) "นางกาหลง วงศ์ทองใบใหญ่" อายุ 44 ปี (อยู่บ้านเลขที่ 144 ม.10 ต.วังไทร อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร (เจ้าของหมา) เล่าว่า "ตนเองเสียใจมากที่ไม่สามารถช่วยเหลือสุนัขของตนที่โดนวางยาได้ โดยผู้วางยาพิษได้มาบอกกับตนว่าสุนัขและแมวของตนเข้าไปเหยียบลุยป่ามันสำปะหลังจนได้รับความเสียหาย โดยตนได้ไปเดินดูในป่ามัน พบว่ามีใบตองที่ใช้วางอาหารคลุกยาที่สุนัขของตนเข้าไปกินจริงๆ ซึ่งเจ้าของไร่มันได้บอกกับตนว่าจะเบือยานะ ให้ดูหมาดีๆ ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะทำจริงๆ จนสุนัขในบ้านที่เลี้ยงไว้ตายหมด เหลือเพียง 1 ตัว ส่วนของเพื่อนบ้านก็ตายเช่นกัน และบางส่วนก็ยังหาศพไม่เจอ ซึ่งตนยอมรับว่าเสียใจมากที่สัตว์เลี้ยงของตนได้ตายครั้งนี้ โดยเมื่อเช้าคนที่เป็นเจ้าของเป้มันได้ขับรถมาบอกว่าเป็นคนเบือยาเองแต่วางในพื้นที่ป่ามันตนเอง จะเอายังไง ? ซึ่งตนมองว่ามันดูโหดร้ายเกินไปทำไมไม่บอกกันดีๆ และมาพูดไม่ดีกับตนแบบนี้ ตอนแรกกะว่าจะไม่เอาเรื่องอะไร แต่ตอนนี้ตนเองก็จะแจ้งความเอาเรื่องแล้วละ
(สัมภาษณ์) "นายสาวก อินทราศรี" อายุ 54 ปี (อยู่บ้านเลขที่ 177 ม.10 ต.วังไทร อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร) (เจ้าของหมาอีกราย) เล่าว่า "ตนไม่คิดว่าเจ้าของป่ามันจะลงมือทำได้ลงคอ ตนเลี้ยงสุนัขมาด้วยความรัก ยอมรับว่ามีบ้างที่ปล่อยหมาไปขี้เยี่ยว แต่เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ตนได้ทำรั่วรอบขอบชิตในบ้านมีกรงขังพร้อม แต่ก็มีบ้างที่มันจะออกไปเที่ยวเล่นกับหมาข้างบ้าน จนสุดท้ายไปโดยยาเบือมาจนตาย ตนเสียใจมากอุสาห์เลี้ยงมาจนโตให้เฝ้าบ้าน และเมื่อเช้าที่ผ่านมาตนได้ยินคำพูดของคนเบือหมา ว่ามรึงจะเอายังไง ? ทำให้ตนรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก ทำไมไม่มีจิตใจเมตตาเลย หมามันไม่รู้เรื่อง อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาจัดการกับคนก่อเหตุดังกล่าวด้วย
(สัมภาษณ์) "นายวิชัย สีแสง" อายุ 66 ปี (อยู่บ้าน 63 ม.10 ต.วังไทร อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร) (คนที่ก่อเหตุวางยาพิษสุนัขและแมว) กล่าวว่า "ตนเองได้ปลูกมีนสำปะลังในพื้นที่ และมีสุนัขชาวบ้านเข้าไปเหยียบทำลายพันธุ์ต้นมันของตนได้รับความเสียหาย ซึ่งหลายครั้งแล้วที่เป็นแบบนี้ ซึ่งตนได้บอกชาวบ้านว่าให้ช่วยดูแลหมาของตัวเองหน่อย ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่าไม่ใช่หมาของฉัน ตนจึงบอกว่าไม่งั้นผมเบือนะ ซึ่งตนได้ไปซื้อไก่ย่างมาคลุกกับยาพิษและวางไว้บนใบตองในป่ามันตนเอง ไม่ได้ไปวางยาบนถนนหรือบ้านของใคร และตนก็เตือนชาวบ้านในพื้นที่ 3 ครั้งแล้วก็ไม่ฟัง เลยตัดสินใจวางยาเมื่อคืนที่ผ่านมา ยอมรับไม่มีการทะเลาะกับชาวบ้านในพื้นที่มาก่อนแต่อย่างใด เมื่อเช้าก็ไปคุยกับผู้เสียหายเมื่อเช้าก็ถามว่าจะเอายังไง ? ให้ไปบ้านผู้ใหญ่ผมก็ไปไม่หนี เพื่อไปเจรจากัน โดยก่อนจากกันชาวบ้านบางคนก็บอกว่าฉันไม่เอาความนะ จบก็จบนะ ตนก็ไม่ได้พูดอะไรมาก และขับรถกลับมาที่บ้าน
(สัมภาษณ์) "นายสังคม วันบัวแดง" อายุ 42 ปี สมาชิก อบต.ม.10 ต.วังไทร (ผู้นำในพื้นที่) กล่าว่า "ตนเองในฐานะผู้นำหมู่บ้าน ได้เข้ามาดูแลและสอบถามทั้งสองฝ่ายเบื้องต้นแล้ว ก็อยากให้เจราคุยกันให้เข้าใจ ไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นโรงขึ้นศาล ในมุมของเจ้าของหมาก็เข้าใจว่ารักสัตว์เลี้ยงของตนอย่างมาก และอีกฝ่ายก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใครยังไงทำจริงหรือไม่ก็จะขอคุยกันก่อน ไม่อยากให้สร้างความแตกแยกกันในหมู่บ้าน ซึ่งก็ไม่อยากให้มีใครมาทำกรณีแบบนี้อีก หากไม่พอใจอะไรก็ให้มาประสาน กลับผู้นำหมู่บ้านเพื่อหาทางร่วมกันแก้ไขต่อไป
ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร
สนับสนุนข่าวโดย
แสดงความคิดเห็น