You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.
เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2563 "แอม - ณัฐมล อาจกล้า" นักฟุตซอลหญิง เหรียญทองซีเกมส์ "กัวลาลัมเปอร์เกมส์" ได้โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว เล่าถึงประสบการณ์การใช้ชีวิตในรั้ว มหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบและได้รับใบรับรองการเรียนจบเมื่อ 24 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย คิดว่าจะเรียนครูไปด้วยเล่นกีฬาไปด้วยดีไหมจะไหวหรือป่าว มันต้องไม่มีเวลาพักแน่ๆ จะเจอเพื่อนเหมือนมัธยมไหม นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
ปี 1 : เข้ามาเรียนมหาลัยราชภัฏกำแพงเพชรโปรแกรมสังคมศึกษาด้วยความไม่รู้ยังงงๆอยู่ ไม่มีพื้นฐาน ด้วยความไม่ถนัด เรื่องเรียนค่อนข้างยากเพราะเป็นช่วงปรับตัว ดีที่ได้เจอเพื่อนดีคอยช่วยเหลือ และความอยากเล่นกีฬาไปด้วยก็แอบพ่อเล่น ต้องแบ่งเวลาให้ดีทั้งเรียนซ้อมเวลาไปแข่ง ต้องกลับมาตามงาน ตามเรียนให้ทันเพื่อน ตอนนั้นที่เล่นเพราะติดว่าจะได้เรียนฟรีจะได้ไม่รบกวนค่าเทอมพ่อเเม่ จะได้มีค่าขนมกินบ้าง ไม่ได้คิดเรื่องที่มีเวลาพัก เวลาเรียน น้อยกว่าคนอื่น
ปี 2 : ชีวิตเริ่มโตขึ้นความรับผิดชอบยิ่งมากขึ้น เพราะเริ่มซ้อมหนักขึ้นเรียนหนักขึ้นงานเยอะขึ้นและต้องตื่นซ้อมเช้า ซ้อมเสร็จไปเรียน เรียนเย็นเสร็จก็ซ้อมต่อ ซ้อมเสร็จก็ต้องทำงาน ไม่ค่อยได้ไปไหน เพราะมีเป้าหมายเวลาไปแข่งจะได้แชมป์บ้าง แต่มีเหตุทำให้เอ็นฉีกต้องใส่เฝือกแข่งก็แพ้เรื่องเรียนก็ผิดหวัง ท้ออยู่ช่วงหนึ่ง แต่ก็ทำต่อไปเวลาแข่งก็จะได้เงินถึงไม่มากแต่ก็พอได้ใช้บ้าง เรื่องเรียนก็พยายามเก็บเกรดและตามเพื่อนให้ทัน
ปี 3 : เป็นปีที่เหนื่อยมากและมีการเปลี่ยนแปลงมากในชีวิตที่สุด มีอุปสรรคต่างๆ มีการตัดสินใจในการเลือกเส้นทางชีวิต เป็นช่วงที่หนักหน่วงมีเหตุการณ์ที่ทำให้ดีใจเเละเครียด คือสอบได้ครูคืนถิ่นและมีชื่อเก็บตัวทีมชาติ จนเกือบดรอปเรียนเพราะการตัดสินใจที่จะเข้าเก็บตัวทีมชาติตอนนั้นไม่มีใครการันตีความสำเร็จเราได้ว่าเราเลือกถูกไหม จะประสบความสำเร็จไหมกับสิ่งที่เราเลือก และแน่นอนว่าเรื่องเรียนตอนนั้นต้องมีปัญหาอยู่แล้ว ต้องขอบคุณโค้ชและอาจารย์ในโปรแกรมที่สนับสนุนและคอยซัพพอร์ตทำให้แก้ปัญหาผ่านมาได้ ตอนเก็บตัวซีเกมส์ เอเชียนอินดอร์เกมส์ 4 เดือน ที่แทบไม่ได้เรียนต้องกลับมาตามสอบ เรื่องงานต้องยกความดีให้เพื่อนในกลุ่มเลยที่ช่วย ส่วนตอนเก็บตัวชิงแชมป์เอเชียลำบากกว่าหน่อยเพราะตรงช่วงสอบปลาภาคแทบไม่ได้พักซ้อมอยู่กรุงเทพ 6 วัน ละต้องอ่านหนังสือวันเสาร์กลางคืนนั่งรถกลับกำแพงมาตามสอบวันอาทิตย์หลายวิชา เพราะมีเวลา 1 วันนั่งรถทัวร์ไปกลับกรุงเทพ-กำแพงเพื่อตามสอบอยู่หลายอาทิตย์ พอกลับมาก็ยังมีเเข่งรายการของมหาลัยด้วย เอาเป็นว่าแข่งตลอดปีไปเลยจ้าแต่สุดท้ายผลก็ออกมาดีตามที่ตั้งไว้ทำให้มีกำลังใจในการทำต่อไปถึงผลการเรียนปีนี้จะตกไปมากเพราะไม่ค่อยได้อยู่เรียนแต่ก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของตัวเองแต่ก็ต้องพยายามอ่านหนังสือสอบไม่ให้เกรดตกไปมากกว่านี้เป็นปีที่เหนื่อยและทุลักทุเลมากจนคิดว่าอยู่เเค่นี้ต้องขนาดนี้เลยหรอ
ปี 4 : ชีวิตเริ่มเข้าที่โอเค จากเดิมเยอะมากๆเลย จากหน้ามือเป็นหลังมือ ทั้งเรื่องการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นมากๆหลังติดทีมชาติ เลี้ยงตัวเองได้ มีเงินเก็บ ซัพพอร์ตครอบครัวได้ กังวลแค่เรื่องเรียนเพราะไม่ค่อยได้อยู่เรียน ยังมีซ้อมมีเเข่งของมหาลัยปกติ ไม่ค่อยมีเวลาไปไหนเท่าไรปีนี้เรียนหนักมากงานเยอะ มาก ต้องรักษาเกรดด้วย ต้องตามสอบอังกฤษให้ผ่านด้วย ปิดเทอมก็ไม่ได้ไปไหน อยู่ซ้อม มีรายการแข่งต่อ ถ้ามองย้อนกลับไปก็ยังคงเลือกที่จะทำแบบนี้
ปี 5 : ปีสุดท้ายในการเป็นนักศึกษา 1 ปีในการฝึกสอนในโรงเรียนกับบทบาทนักศึกษาฝึกสอนไม่มีไรมาก มีหน้าที่สอนทำงานของโรงเรียนทำงานตัวเองที่ต้องส่งเเล้วก็มีซ้อม เพราะมีรายการแข่งป้องกันแชมป์ มีไปเก็บตัวแข่งที่จีน ดีที่ได้โรงเรียนดี เพื่อนฝึกสอนดี เรียนไปด้วยเล่นนักกีฬาด้วยไม่ง่ายเลย อุปสรรค ต้องมีตลอด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าส่วนหนึ่งที่มีวันนี้ได้เพราะกีฬา ถึงจะต้องเหนื่อยกว่าคนอื่น 2 เท่า วันหยุดก็ไม่ค่อยได้หยุด ปิดเทอมก็ไม่ได้ปิด ขนาดบ้านยังไม่ค่อยได้กลับ สุดท้ายก็ผ่านมันไปได้ เรื่องกีฬาถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากสำหลับ 5 ปีกับมหาลัย เป็นแชมป์กีฬามหาลัย 3 สมัย 1 เหรียญทองแดง แชมป์กีฬาราชภัฏ 4 สมัยกับ 1 เหรียญเงิน รองแชมป์ลีคและอื่นๆ ตอนนี้กดดันแค่เรื่องสอบอังกฤษให้ผ่าน แต่เพราะติดโควิด-19 ทำอะไรไม่ได้เลย เครียดมากๆเพราะเลื่อนสอบไม่มีกำหนดแต่ไม่เลื่อนบรรจุ จบแล้วนะจบในยุคโควิด-19 แพลนชีวิตที่วางไว้ต้องพักก่อน รัฐบาลก็แย่ ต้องเกาะแม่แน่ๆ
รีวิว : สำหรับ 5 ปีในรั้วมหาวิทยาลัย ได้ทำอะไรหลากหลาย ได้ประสบการณ์มากมาย โตขึ้นมากมันอาจจะธรรมดาสำหรับบางคน แต่เราภูมิใจในตัวเองมากๆที่เรียนไปด้วยเล่นกีฬาไปด้วยจริงๆคือเล่นกีฬาไปด้วยตั้งแต่ประถมละ อยากขอบคุณตัวเองกว่าจะมาถึงจุดนี้เหนื่อยชีวิตไม่ได้เรียบง่ายแต่ไม่ว่าเจออุปสรรคอะไรที่เข้ามาเราก็ผ่านมันมาได้ วันข้างหน้ามันก็ต้องมีอุปสรรคอีกมากมายเข้ามาเราจะต้องเข้มเเข็งขึ้น อดทนพยายาม ทำหน้าที่ของตัวเองไปเรื่อยๆ วางแผนอนาคตให้ไปในทางที่ดี ดูแลพ่อแม่ได้ดูแลตัวเองได้ ถึงอนาคตที่เลือกจะไม่ถูกใจใครแค่ถูกใจตัวเองแล้วมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองอยากเลือกก็พอ อย่าบอกว่าเป็นการจับปลา2มือทำไมไม่เลือกสักทางเดี๋ยวก็พลาดทั้ง 2 อย่างหรอกจริงๆแล้วทุกคนมีความฝันและความจริงที่ต้องทำจึงขอแค่ให้โอกาสได้ลงมือทำและคอยช่วยเหลือสนับสนุน ส่วนเรื่องจะสำเร็จไม่สำเร็จนั้นขอให้เป็นเรื่องของตัวเค้าเอง ไม่รู้ว่าอนาคตจะได้เป็นครูหรือป่าวจะเลือกเส้นทางชีวิตต่อไปยังไงเกิดมาครั้งเดียวอยากใช้ชีวิตที่ตัวเองเลือก จะเท่กว่านี้ถ้าสอบอังกฤษผ่าน
ขอบคุณครูอาจารย์ทุกท่าน ครอบครัว ครูตู่โค้ชคนแรกที่ปั้นมา เพื่อนๆ พี่ๆน้องๆทุกคนที่เป็นกำลังใจและคอยช่วยเหลือสนับสนุนตลอดมา อยากพิมพ์เล่าอะไรยาวๆบ้าง เก็บไว้บันทึกความรู้สึกตอนนี้ไว้เตือนตัวเองในวันที่เราหมดกำลังใจว่าช่วงนี้มันทำให้เราท้อ เราลำบาก สับสนและเคว้งคว้างขนาดไหน เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะ
ผู้ที่สำเร็จมากกว่าคนอื่น “ คือผู้ที่มีความอดทนมากกว่าคนอื่น “
ข่าว-ภาพ นายวิทยา จตุรภาค สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร
สนับสนุนข่าวโดย
แสดงความคิดเห็น