You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ณ เรือนจำกลางกำแพงเพชร นายวีรศักดิ์ ขจีจิตร รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นำคณะทำงานฯลงพื้นที่เพื่อดำเนินกิจกรรม"การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้พิพากษากับผู้ต้องหาและจำเลยที่ถูกคุมขังในเรือนจำกลางจังหวัดกำแพงเพชร โดยมี นายอนันต์ คงชื่น ผู้พิพากษาหัวหน้ศาลและผู้พิพากษาในศาลจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวต้อนรับและนำเรียนจำนวนผู้ต้องขังที่จะนำเข้าพูดคุยกับคณะทำงานฯ ร่วมด้วยคณะผู้สังเกตการณ์ของสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 6 ผู้พิพากษาศาลจังหวัดกำแพงเพชร ผู้บังคับบัญชาเรือนจำ เจ้าหน้าที่จำเลย และผู้ต้องขัง จำนวน 40 คน
สืบเนื่องจากประธานศาลฎีกาได้วางนโยบายการบริหารศาลยุติธรรมประจำปี 2562-2563 มุ่งนั้นให้ความสำคัญในการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน โดยฉพาะผู้ต้องหาหรือจำเลย โดยการปรับปรุงและพัฒนากระบวนการปล่อยตัวชั่วคราวของศาล เพิ่มมาตรฐานการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนสำนักงานศาลยุติธรรมจึงได้จัดโครงการขับเคลื่อนนโยบายประธานศาลฎีกาในการยกระดับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของผู้ต้องหาหรือจำเลย เพื่อดำเนินการให้นโยบายดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนนโยบายยกระดับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน โดยท่านเมทินี ชโลธร รองประธานศาลฎีกา ประธานคณะทำงาน ได้กำหนดเป้าหมายเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามนโยบาย ดังนี้
1. กำหนดให้การยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวสามารถทำได้โดยสะดวกรวดเร็ว
2. กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการประเมินความเสี่ยงและการใช้วิธีการกำกับดูแลตามพระราชบัญญัติมาตรการกำกับและติดตามจับกุมผู้หลบหนีการปล่อยชั่วคราว
3. ขยายเวลา ในการยื่นคำร้องปล่อยชั่วคราวโดยเปิดทำการในวันหยุดราชการ
4. จัดสถานที่ให้บริการประชาชนอย่างเหมาะสม รวมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนอย่างถูกต้อง
5. จัดให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้พิพากษากับผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ถูกคุมขังในเรือนจำ เพื่อให้ทราบถึงเหตุผลในการไม่ยื่นขอประกันตัว ผลกระทบและความคาดหวังในกระบวนการยุติธรรม อันเป็นการสร้างความข้าใจที่ถูกต้อง
คณะทำงานฯ มีความคาดหวังต่อการดำเนินการ เพื่อลดการเรียกหลักประกัน เพิ่มความปลอดภัยให้สังคม และลดการคุมขังที่ไม่จำเป็นในทุกขั้นตอน อันเป็นการยกระดับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ต้องหาและจำเลย สำนักงานศาลยุติธรรม โดยคณะทำงานฯและสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 6 ได้คัดเลือกให้ศาลจังหวัดกำแพงเพชร เป็นศาลต้นแบบในการดำเนินการตามโครงการดังกล่าว ซึ่งในวันนี้ คณะทำงานฯ ได้ลงพื้นที่ดำเนินกิจกรรม"การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่าผู้พิพากษากับผู้ต้องหละจำเลยที่ถูกคุมขังในเรือนจำกลางจังหวัดกำแพงเพชร"เพื่อรับทราบเหตุผลที่ไม่ขอประกันตัว ผลกระทบและความคาดหวังที่มีต่อกระบวนการยุติธรรม อันเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการขอปล่อยชั่วคราวหลัง
จากนั้นคณะทำงานฯ เดินทางไปที่ศาลจังหวัดกำแพงเพชรเพื่อวางระบบ และให้คำแนะนำแก่นายอนันต์คงชื่น ผู้พิพากษาหัวหน้ศาลและผู้พิพากษาในศาลจังหวัดกำแพงเพชร ตามคำแนะนำของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการขยายโอกาสในการเข้าถึงสิทธิที่จะได้รับการปล่อยชั่วคราว พ.ศ 2562 ซึ่งมีหลักการดังนี้
-ให้การร้องขอปล่อยชั่วคราวผู้ร้องขอไม่จำต้องเสนอหลักประกันมาพร้อมกับคำร้อง
-ให้ศาลพึงพิจารณาปล่อยชั่วคราวโดยไม่มีประกันหรือมีประกัน แต่ไม่ต้องมีหลักประกัน
-ให้เก็บข้อมูลผู้ต้องหาหรือจำเลยเพื่อประมินความเสี่ยงในการหลบหนีหรือยุ่งเหยิงพยานหลักฐานโดยไม่จำต้องพิจารณาตามบัญชีมาตรฐานหลักประกัน
-ศาลอาจกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับที่อยู่ของผู้ถูกปล่อยชั่วคราวหรือสั่งให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กกรอนิกส์หรืออุปกรณ์ติดตามตัว (EM) แต่งตั้งผู้กำกับดูแลผู้ถูกปล่อยชั่วคราวโดยไม่เรียกหลักประกัน
-ให้พิจารณาหลักประกัน ตามจำนวนที่เสนอ หากไม่เพียงพออาขยายระยะเวลาการหาหลักประกัน โดยให้ปล่อยตัวชั่วคราวไปพลางก่อน
-พิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราว โดยคำนึงถึงเหยื่ออาชญากรรม และความสงบสุขของสังคมควบคู่กันไปด้วยเสมอ
ดังนั้นศาลจังหวัดกำแพงเพชร โดยนายอนันต์คงชื่น ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจะดำเนินการตามนโยบายประธานศาลฎีกา และแนวทางตามที่คณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย โดยให้การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของผู้ต้องหาและจำเลย ที่มีคดีในจังหวัดกำแพงเพชร และเป็นศาลต้นแบบในเขตอำนาจสำนักงานอธิบดีภาค 6 เพื่อความสงบสุขของสังคมต่อไป
/// ข่าว วิทยา จตุรภาค สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร
สนับสนุนข่าวโดย
แสดงความคิดเห็น